คนขับแท็กซี่โรคประจำตัวกำเริบ ขับรถพุ่งตัดหน้ารถบรรทุกถูกชนเสียชีวิต คาสนามบินสุวรรณภูมิ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 17 สิงหาคม 2565 พ.ต.ท. นิธิศ เสนาพรหม สารวัตรสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์แท็กซี่พุ่งออกมาตัดหน้ารถบรรทุกถูกชนกลางคัน มีผู้บาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณถนนสายสุวรรณภูมิ สาย 3 เลียบรันเวย์ จนใกล้ถึงแยกบัสเทอร์มินอล ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถแท็กซี่ยี่ห้อ โตโยต้า สีส้ม ทะเบียน ทส 966 กรุงเทพมหานคร ของสหกรณ์ บวรแท็กซี่ จำกัด ซึ่งขับรับส่งผู้โดยสารอยู่ในสนามบินสุวรรณภูมิจอดอยู่บริเวณเกาะกลางถนนในสภาพด้านข้างฝั่งขวาฝั่งคนขับถูกชนจนพังยับเยิน พบร่างของชายคนขับชื่อ นายอภิชาต ไชยมั่น อายุ 57 ปี ติดอยู่ภายในซากรถในสภาพหมดสติเจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างตัดประตูและงัดซากรถเพื่อนำร่างของผู้บาดเจ็บออกมาทำCPR ปั้มหัวใจอยู่นานกว่า 15 นาที แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ นอกจากนั้นจากการตรวจสอบภายในรถยังพบซองยารักษาโรคประจำตัวและใบกระท่อมวางอยู่ภายในเก๊กหน้ารถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ใกล้กันได้พบรถบรรทุกหกล้อตู้ทึบยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 73-2332 สมุทรปราการ จอดอยู่ใกล้กันในสภาพด้านหน้ายุบเพียงเล็กน้อย ซึ่งรถบรรทุกคันดังกล่าวมีกล้องหน้ารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ เป็นภาพเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 14.03 น. ของวันนี้ที่ 17 สิงหาคม 65 ขณะที่คนขับรถบรรทุกหกล้อคันดังกล่าว ขับรถจะมาขึ้นสินค้าภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขณะที่ขับอยู่บนถนนสายสุวรรณภูมิ สาย 3 เลียบรันเวย์ จนใกล้ถึงแยกบัสเทอร์มินอล ปรากฏว่าจู่ ๆ รถแท็กซี่สีส้มคันดังกล่าว ได้ขับพุ่งตรงออกมาจากในลานจอดรถแท็กซี่สาธารณะภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชนิดไม่มีการเบรกได้พุ่งชนแนวกั้นลวดหนามก่อนจะพุ่งออกมาตัดหน้ารถบรรทุกคันดังกล่าวอย่างกระชันชิด จึงถูกรถบรรทุกคันดังกล่าวพุ่งชนกลางอย่างจัง
นาย คุณัฐ คุณภิริยะนันท์ คนขับรถบรรทุกหกล้อคู่กรณี ได้บอกว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถมารับสินค้าภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก็ขับมาไม่เร็วเท่าไหร่ในเลนซ้าย จนมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งตอนนั้นมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่ามีรถแท็กซี่คู่กรณีขับแหกไม้กั้นพุ่งออกมาตัดหน้ารถของอย่างกระชั้นชิด ตนพยายามเหยียบเบรกแล้วแต่เอาไม่อยู่ รถได้พุ่งชนกลางคันเข้าอย่างจัง
ส่วนเพื่อนของผู้บอกว่าผู้ตายเพิ่งกลับมาจากการรักษาตัวที่บ้านต่างจังหวัดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานี้เองจนกรทั่งมาทราบเรื่องอีกครั้งคือเกิดเหตุแล้วจึงรีบขับรถมาดู ส่วนสาเหตุคาดว่าหน้าจะมาจากโรคประจำตัวที่แกเคยเป็นคือโรควูบเนื่องจากโหมขับรถและพักผ่อนไม่เพียงพอ ขณะที่คนขับรถแท็กซี่อีกราย ได้ให้ข้อมูลว่า ตนเห็นว่ารถแท็กซี่คันนี้ขับออกมาในเลนที่จะต้องวนไปรับผู้โดยสารภายในอาคาร แต่พอมาถึงทางโค้งยูเทิร์น คนขับไม่ยอมเลี้ยวและพุ่งชนไม้กั้นออกไปอย่างแรงก่อนจะพุ่งออกถนนจนถูกชนอย่างจัง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ผู้ตายน่าจะมีอาการของโรคประจำกำเริบอย่างรุนแรง ขณะที่ขับรถแท็กซี่ออกมาจากลานจอดรถภายในสนามบินและเกิดหมดสติจึงทำให้รถเสียหลักพุ่งชนแนวกั้นลวดหนามก่อนจะพุ่งออกมาตัดหน้ารถบรรทุกคันดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ตนเองเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวคนขับรถบรรทุกหกล้อและพยานที่เห็นเหตุการณ์มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป