เก๋งดำพุ่งรถจักรยานยนต์แม่ลูก บาดเจ็บ ก่อนหลบหนี (ภาพกล้องหน้ารถ)

กรุงเทพมหานคร
เก๋งดำพุ่งรถจักรยานยนต์แม่ลูก บาดเจ็บ ก่อนหลบหนี (ภาพกล้องหน้ารถ)

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. เวลา 18:00

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับการประสานให้ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุขี่รถจักรยานยนต์ถูกรถยนต์เฉี่ยวชนแล้วหลบหนีส่งผลให้มีผู้ได้รับอาการบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดบริเวณถนนพระราม 2 ฝั่งขาออก ใกล้เคียงช็อปปิ้งมอลล์แห่งหนึ่ง (เดอะ ไบรท์ พระราม 2) แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 5 เลน ช่วงทางเบี่ยงเข้าช่องทางหลักบริเวณถนนเลนที่ 2 พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฟีโน่ รุ่น 125 สีฟ้า-ขาว หมายเลขทะเบียน 1 กถ 4205 สมุทรสาคร พลิกคว่ำอยู่ใต้ท้องรถบรรทุกพ่วง 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 70-1100 ตัวลูก 70-1101 ระนอง ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือน.ส.ยุพเรศ ทิมเทศ อายุ 30 ปี มีแผลฉกรรจ์ที่ข้อมือขวา และแผลถลอกตามร่างกาย และด.ญ. ภัทรพร เวียงศรี อายุ 11 ปี พบแผลถลอกตามร่างกายเช่นกัน จึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลพี เอ็ม จีเพื่อรักษาอาการอย่างเร่งด่วน

ด้าน น.ส.ชลนิภา หาญกล้า อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รหัสบางมด 17 ให้การว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ทางมูลนิธิได้รับการประสานให้ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุรถจักรยานยนต์ถูกรถบรรทุกเฉี่ยวชนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย
เมื่อไปถึงจึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนคนเจ็บซึ่งเป็นผู้ใหญ่ให้ข้อมูลว่า แท้จริงแล้วรถบรรทุกไม่ใช่เป็นคู่กรณีโดยตรง สำหรับผู้ก่อเหตุที่แท้จริงคือรถยนต์ สีดำ ซึ่งขับมาจากทางคู่ขนานก่อนเบียดเข้ามาช่องทางหลักและชนเข้าอย่างจัง ก่อนขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่หยุดลงมาให้ความช่วยเหลือแม้แต่อย่างใด จากนั้นจู่ๆมีพลเมืองดีนำหลักฐานซึ่งเป็นภาพจากกล้องหน้ารถขณะกำลังเกิดเหตุมาให้ดู ตนจึงแนะนำให้ไปส่งมอบกับทางพนักงานสอบสวนสน.บางมด เพื่อประกอบในสำนวนคดี ส่วนคนขับรถบรรทุกก็ไม่ได้หลบหนีไปไหนพร้อมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน

“อยากฝากถึงผู้ก่อเหตุให้เข้ามามอบตัวและแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป เพราะผู้บาดเจ็บค่อนข้างมีอาการสาหัสที่ข้อมือ” น.ส.ชลนิภา กล่าว

ด้านนายนพดล พรวศิน อายุ 42 ปี พลเมืองดี เปิดเผยว่า โดยก่อนเกิดเหตุตนขับรถซึ่งใช้ถนนคู่ขนานก่อนเบี่ยงเข้าทางสายหลักโดยมีรถคันก่อเหตุอยู่ด้านหลังขับตามกันมาติดๆ ซึ่งจังหวะนั้นตนมองกระจกข้างพบรถจักรยานยนต์ขี่ตรงมาจากเลนที่ 2 ก่อนรถผู้ก่อเหตุจะเบียดชนกับคู่กรณีเข้าอย่างจังจนล้มไปอยู่ใต้ท้องรถโชคดีที่รถบรรทุก 10 ล้อเบรคทัน มิเช่นนั้นผู้บาดเจ็บอาจมีอาการสาหัสมากกว่านี้หรือถึงขั้นเสียชีวิต

“จากนั้นผมจึงรีบขับรถตีคู่ตามรถคันก่อเหตุซึ่งเป็นรถยนต์ยี่ห้อเอ็มจี รุ่นมอร์ริส การาจส์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 7 กบ 854 กรุงเทพมหานคร ติดสติ๊กเกอร์ “วัดท่าไม้” พร้อมเปิดกระจกตะโกนบอกให้หยุดรถ ทั้งๆที่จังหวะนั้นเลยช่วงจุดเกิดเหตุมาไม่ไกล แต่กลับไม่ยอมจอดมาดูอาการคนเจ็บ และก็ขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว” พลเมืองดีกล่าว