จังหวัดราชบุรีเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญของประเทศหลายชนิด อาทิ มะพร้าวน้ำหอม, สับปะรด, มะม่วงน้ำดอกไม้ เป็นต้น และในปัจจุบันได้ส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ อ.ปากท่อ สวนผึ้ง บ้านคา มาปลูกทุเรียน ที่ใช้ชื่อการค้าว่าทุเรียนตะนาวศรี เนื่องจากทุเรียน คือ หนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในช่วงที่ผ่านมาเกษตรกรในจังหวัดราชบุรีได้ทดลองปลูกทุเรียนซึ่งได้ผลผลิตดี ทำให้มีเกษตรกรสนใจปรับเปลี่ยนพื้นที่มาปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มจะมีพื้นที่ปลูกเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลผลิตจะออกเยอะช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกรกฎาคม โดยปีนี้ 2566 สภาพอากาศแปรปรวนทำให้ทุเรียนได้รับผลกระทบมีจำนวนน้อยกว่าทุกปี แต่คุณภาพทุเรียนตะนาวศรียังเหมือนเดิม
นายสุพัฒน์ อ่อนคง เกษตรจังหวัดราชบุรี ได้เชิญสื่อมวลชนจังหวัดราชบุรีนำโดยนางฐิรัตทียา สุภาชัย ประชาสัมพันธ์จังหวัดราชบุรี ลงพื้นที่ไปยังสวนทุเรียนในพื้นที่อำเภอปากท่อซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกทุเรียนมากที่สุดของจังหวัดราชบุรี และรวมกลุ่มกันเป็นแปลงใหญ่เพื่อลดต้นทุนการผลิต พร้อมจำหน่ายผลิตผลได้ราคา นายสุพัฒน์ อ่อนคง เกษตรจังหวัดราชบุรี กล่าวว่าจังหวัดราชบุรีมีพื้นที่ปลูกทุเรียนกว่า 4 ,000 ไร่ มีมากสุดที่ อ.ปากท่อ โดยเฉพาะตำบลยางหัก มีเนื้อที่เก็บเกี่ยวที่ให้ผลผลิตแล้วกว่า 500 ไร่ แต่ปีนี้สภาพอากาศแปรปรวนฝนแล้งทำให้ทุเรียนติดผลน้อย ส่วนคุณภาพทุเรียนดีเหมือนเดิม ขณะที่เกษตรกรในพื้นที่ปากท่อปลูกทุเรียนกว่า 100 สายพันธุ์ ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์หมอนทอง นอกจากนั้นก็เป็นพันธุ์มูซังคิง หลงลับแล หลินลับแล และก้านยาวตะนาวศรี
ทั้งนี้สำนักงานเกษตรจังหวัดราชบุรีได้ส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ทุเรียน เพื่อรวบรวมเกษตรกรที่ปลูกทุเรียนคุณภาพ ส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มการผลิตและการบริหารจัดการร่วมกัน ตลอดจนการจัดการด้านการตลาด เพื่อการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน และส่งเสริมให้ความรู้แก่เกษตรกร พัฒนาการผลิต โรคแมลง การจัดการดินปุ๋ย/GAP/เทคนิคการตรวจสอบการสุกแก่ให้กับเกษตรกร เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ จำหน่ายได้ราคาที่เหมาะสม
สำหรับทุเรียนตะนาวศรีราชบุรี มีลักษณะพิเศษ เนื้อนุ่ม แห้ง เม็ดเล็ก หวาน มัน กลิ่นไม่แรงมาก ซื้อสดจากสวนสุกโดยไม่ป้ายยา ไม่ชุบยา ปลอดภัยต่อผู้บริโภคแน่นอน นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบทุเรียนไม่ควรพลาดต้องตามไปชิมถึงต้น ทุเรียนตะนาวศรี ราชบุรี พันธุ์หมอนทองขายกิโลละ 150-200 บาท และที่น่าสนใจคือสามารถเข้าชมสวนผลไม้ พร้อมไปกินผลไม้นานาชนิดตามฤดูกาลสดๆ จากต้น ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถ สอบถามรายละเอียดได้ที่ สนง.เกษตร จ.ราชบุรี 032-315405
สุจินต์ นฤภัย(เต้) จ.ราชบุรี
Leave a Reply