สาวทอมข้ามถนนท่ามกลางฝนตก ถูกเก๋งชนกระเด็นข้ามฝั่ง ดับคาที่

สาวทอมข้ามถนนท่ามกลางฝนตก ถูกเก๋งชนกระเด็นข้ามฝั่งดับคาที่
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนคนข้ามถนนเสียชีวิต บริเวณทางขึ้นยกระดับข้ามจุดกลับรถ ถนนศรีนครินทร์ กม.19 ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศล สมุทรปราการ และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุบริเวณทางลงสะพานมุ่งหน้าปากน้ำ พบ ร่างผู้เสียชีวิต เป็นหญิง 1 ราย นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนสะพานฝั่งซ้าย สภาพมีเลือดออกที่หูและศีรษะ แขนขวาหัก มีแผลที่ข้อพับขาซ้าย จากการตรวจสอบไม่พบเอกสารติดตัว ที่อีกฝั่งของถนนเลนซ้ายพบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ วอลโว่ สีแดง ทะเทียนป้ายแดง ผ-2035 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าขวามีร่องรอยการถูกเฉี่ยวชนเสียหาย ส่วนผู้ขับขี่รถยนต์อยู่ในอาการตกใจ ยืนรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถาม ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว เล่าว่า ตนเองขับคันดังกล่าวมาจากเลิกงาน โดยขับมาตามปกติแล้วรู้สึกเหมือนขับรถชนอะไร จึงจอดรถลงมาดูทีแรกก็หาไม่เจอ จนมีคนมาช่วยหาจึงเจอผู้เสียชีวิตตรงบริเวณดังกล่าว ซึ่งขณะที่ตนเองขับรถมาในพื้นที่มีฝนตกลงมาตลอด
นางสาวดวงพร สันทอง อายุ 35 ปี พนักงานในร้านข้าวต้นบริเวณจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ตนเองได้ยินเสียงดังคล้ายรถชนจึงหันไปดูก็เห็นคนลอยข้ามฝั่งมา ส่วนผู้เสียชีวิต นั้น พักอาศัยอยู่ที่ใต้สะพานลอยบริเวณใกล้เคียงกับแฟน โดยผู้เสียชีวิต นั้น ตระเวนเก็บของเก่าอยู่ในละแวกนี้มานานแล้ว โดยผู้เสียชีวิตนั้นชอบดื่มสุราแล้วเดินลงถนนข้ามไปข้ามมาเวลาเมา และ เป็นอย่างนี้อยู่บ่อยครั้ง
นายหนุ่ม ชาวบ้านที่เคยพบเจอคนตายเดินข้ามถนนไปมา เล่าว่า ผู้เสียชีวิตนั้นอาศัยอยู่ใต้สะพาน และ มักจากเดินข้ามถนนอย่างนี้เป็นประจำ ตนเองยังเคยเกือบชนผู้เสียชีวิตมาแล้ว เนื่องจากอยู่ดี ๆ ผู้เสียชีวิตก็วิ่งออกมาจากใต้สะพาน ดีที่ตนเองยังเบรกรถอยู่
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ ได้ทำแผนที่ และ ถ่ายรูปจุดเกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเชิญผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก พร้อมจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ และ บริเวณใกล้เคียง เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริงในครั้งนี้ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตเจ้าหน้าที่มอบให้มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ ก่อนจะประสานให้ญาติมารับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป