ตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับฝ่ายทหาร สกัดจับยาบ้าล๊อตใหญ่กว่า 6 ล้านเม็ด ขณะลำเลียงขึ้นฝั่งแม่น้ำโขง
จ.บึงกาฬ
เมื่อเวลา 15.00 วันที่ 26 ก.พ 67 ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ได้แถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งลักลอบขนยาบ้า 6 ล้านเม็ด จากประเทศเพื่อนบ้านเข้าในประเทศไทย โดยมี พล.ท.อดุลย์ บุญธรรม แม่ทัพภาค 2, นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผวจ.บึงกาฬ, พล.ต.ต.วิญญู อำนวย ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ร่วมกับ ผู้แทนจากฝ่ายปกครองจังหวัดบึงกาฬ, เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค ๔, ตชด.ภาค.2 และ นรข. ร่วมแถลงข่าว
โดยก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.บึงกาฬ ได้สืบสวนทราบว่า จะมีขบวนการค้ายาเสพติด ลักลอบนำยาเสพติดไม่ทราบจำนวน จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านตามแนวแม่น้ำโขง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เข้ามายังฝั่งไทย เพื่อลำเลียงขนส่งเข้าสู่พื้นที่ตอนใน จึงร่วมกับฝ่ายทหารและหน่วบูรณาการในพื้นที่ วางกำลังและเฝ้าติดตามเป้าหมาย จนกระทั่งเวลา 20.30 น. ของวันที่ 25 ก.พ.67 ตำรวจพบรถเป้าหมายตามที่ได้รับแจ้งคือ รถกระบะโตโยค้าไฮลักซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บษ 90xx สกลนคร ขับขี่มาบนถนน 212 เข้ามาในพื้นที่ อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ลักษณะมีพิรุธ จึงไล่ติดตาม แต่รถคันดังกล่าวได้ขับขี่หลบหนีไปบริเวณท่าทรายเก่า ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านดอนใหญ่ ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ก่อนที่คนขับรถ พร้อมพวกรวม 2 คน จะวิ่งหลบหนีไป ได้ จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบกระสอบต้องสงสัยจำนวน 15 กระสอบ ถูกวางอยู่ในเบาะที่นั่งภายในรถ และวางอยู่ที่ท้ายกระบะโดยมีผ้าใบปิดทับไว้ เบื้องต้นพบเป็นยาบ้า รวมจำนวน 6 ล้านเม็ด ตำรวจจึงยึดไว้เป็นของกลาง นำส่ง พงส.สภ.บุ่งคล้า ดำเนินคดี ซึ่งหลังจากนี้จะสืบสวนขยายผลหาผู้ครอบครองรถ เพื่อนำไปสู่การจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายนี้ต่อไป
ขณะที่ด้าน
พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 กล่าวว่า การจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการปราบปรามสกัดกั้นการลำเลียง ยาเสพติดตามแนวชายแดนอีสานเหนือ ซึ่งตำรวจภูธรภาค 4 ได้ดำเนินการอย่างจริงจังและเข้มข้นในทุกจังหวัด รวมทั้งมีการทำข้อมูลเครือข่าย ขบวนการค้ายาเสพติดและสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมมาโดยตลอด สำหรับยาเสพติดที่ยึดได้จะนำไปส่งตรวจพิสูจน์และดำเนินการตามขั้นตอน พร้อมกันนี้ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้ขยายผลสืบสวนจับกุมเครือข่ายระดับสั่งการและผู้ลำเลียงมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
Leave a Reply