“บิ๊กแนต” ทุบโต๊ะ เอเชี่ยนอินดอร์ฯ
เก็บต่อ แม้ใช้งบไปแล้ว1,400 ล้าน
เมื่อวานนี้ กลุ่มผู้บริหารสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ร่วมแข่งขันในกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ได้ร่วมประชุมถึงเรื่องงบประมาณการเก็บตัว ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยมี นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ, นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทยฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ , นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา , ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย, ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และ นายกสมาคมกีฬา รวมถึง ผู้แทนสมาคมกีฬาต่างๆ จำนวน 36 สมาคม ร่วมประชุมกันอย่างเคร่งเครียด เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหา ในการเก็บตัวนักกีฬาทีมชาติ กับโครงการเตรียมความพร้อมแข่งขันมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ แอนด์ มาเชี่ยลอาร์ตเกมส์ 2021 โดยเฉพาะคำสั่งล่าสุดจาก คณะกรรมการบริหาร (กกท.) ที่ได้ประกาศให้ยุติการเก็บตัวนักกีฬาตั้งแต่เดือน มีนาคม – กันยายน 2567 จากนั้นให้กลับมาเก็บตัวร่วมกันอีกครั้งก่อนการแข่งขัน เอเชี่ยน อินดอร์ 3 เดือน
นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ กล่าวว่า แต่เดิมการแข่งขันเอเชี่ยนอินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่กำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 10-19 มีนาคม 2564 แต่ติดปัญหาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องมีการประกาศเลื่อนการแข่งขันออกไปก่อน รวมทั้งโชคร้ายไปชนกับ มหกรรมกีฬาอื่นๆ ของสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย ( OCA ) ในปีเดียวกัน ทำให้ต้องประกาศเลื่อนการแข่งขันรวม 5 ครั้ง จนสุดท้ายกำหนดแข่งขันครั้งล่าสุด เป็นระหว่างวันที่ 21-30 พฤศจิกายน ปีนี้ และจากการเลื่อนแข่งขันที่ผ่านมาทำให้รัฐบาลใช้เงินในการเก็บตัวนักกีฬาสูงถึง 459 ล้านบาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ นับเป็นเงินในการเก็บตัวมหาศาลที่สุดในทุกมหกรรมกีฬาที่เคยใช้
นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ยืนยันว่า ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารได้สั่งการให้หยุดเก็บตัวนักกีฬาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ทั้งๆ ที่เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จะแข่งขันแล้ว ทำให้แต่ละสมาคมต้องเดือดร้อนหาเงินมาบริหารจัดการเรื่องการเก็บตัวนักกีฬาด้วยตัวเอง จึงเป็นที่มาของการเชิญผู้แทนจากทุกสมาคมกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขันหารือเป็นการเร่งด่วน กับคำถามที่ว่า…
“หยุดเก็บนักนักกีฬาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ใกล้กำหนดแข่ง (อีกไม่กี่เดือน) ฝ่ายบริหารให้งบในการเก็บตัวระยะยาว นักกีฬาทุกสมาคมมีจำนวนมากถึง 900 กว่าคน งบที่อนุมัติมาแล้ว รอเพียงคำสั่งอนุมัติให้เก็บตัว ทุกสมาคมที่ทำงานต่อเนื่อง จะไม่ได้รับเงินสนับสนุน เพราะงบต้องคืนหลวง หากไม่นำมาใช้…”
นายกองเอก ชัยภักดิ์ ยังได้แสดงความเป็นห่วง โดยจะต้องใช้งบประมาณในช่วงเวลาที่เหลืออีก 247 ล้านบาท สุดท้ายซึ่งกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ออกมายืนยันแล้วว่า จะให้การสนับสนุนงบประมาณดังกล่าว เพราะรู้ดีว่าการเลื่อนแข่งขันไม่ได้เกี่ยวข้องกับสมาคมกีฬา ถือว่าเป็นความโชคดีของนักกีฬา และ ทุกสมาคมกีฬา เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงได้มีการประเมินความหวังเช่นเดียวกัน โดย ไม่ตั้งเป้าเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย แต่ต้องติด 1 ใน 3 ของตารางเหรียญให้ได้ ถ้าอีเวนต์ไหนที่มีนักกีฬาอาเซียนได้เหรียญหรือ ทำผลงานเหนือกว่า นักกีฬาไทย ก็ต้องมาพิจารณาที่จะตัดออกจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ในปีหน้า ออกไป ถือว่าเป็นการแฟร์กับทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อผลงานไม่ดี สมาคมกีฬานั้น ๆ ก็ต้องรับผิดชอบเช่นเดียวกัน
ในขณะที่ ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ กล่าวว่า เงินที่กองทุนจะสนับสนุนนั้นไม่อยู่ในกรอบปีงบประมาณ 2567 เพราะเลื่อนการแข่งขันออกไปจากเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนหน้านี้ให้เงินไปแล้ว 115 ล้านบาท แต่บางสมาคมออกมาบอกว่ายังไม่ได้เงิน ขอชี้แจงว่า จาก 36 สมาคม มี 10 สมาคมที่ยังไม่ส่งเบิก ได้แก่ ( สมาคมกีฬาวอลเลย์บอล 3 ล้านบาท / สมาคมกีฬาลีลาศ 2 ล้านลาท / สมาคมกีฬาตะกร้อ 4.8 ล้านบาท / สมาคมกีฬาบาสเก็ตบอล 3 ล้านบาท / สมาคมกีฬาแบดมินตัน 2.5 ล้านบาท / สมาคมกีฬาปีนหน้าผา 2.2 ล้านบาท / สมาคมกีฬาฟุตบอล (ฟุตซอล) 5 ล้านบาท / สมาคมกีฬาว่ายน้ำ 3 ล้านบาท และ สมาคมกีฬาอีสปอร์ต 1.9 ล้านบาท ) / สมาคมส่งเบิกได้รับเงินแล้ว 18 สมาคม, สมาคมส่งเบิกและส่งคลังแล้ว แต่ยังไม่ได้รับโอนเงิน 8 สมาคม หลังจากนี้ให้จัดการทำเรื่องเบิกจ่ายให้เรียบร้อย ภายในสัปดาห์นี้ ขอยืนยันว่ากองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ พร้อมสนับสนุนเรื่องเงินค่าเก็บตัวให้นักกีฬาทุกคนในช่วงเวลาที่เหลืออย่างแน่นอน โดยกำหนดให้การเก็บตัวนักกีฬาดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ได้รับการยืนยันด้วยว่า งบที่กองทุนสนับสนุนนั้นบานปลายจากการเลื่อนแข่งถึง 5 ครั้ง ตอนนี้ทะลุ 1,400 กว่าล้านบาท ซึ่งเป็นงบมหาศาลสำหรับมหกรรมเดียว ฉะนั้นเมื่อเราเทงบให้มากมายขนาดนี้ ก็จะต้องมีการวัดผลของแต่ละสมาคมในความสำเร็จของรายการนี้ ต้องติด 1 ใน 3 ของตารางคะแนน
ทั้งนี้จากการเก็บตัวนักกีฬามาตลอด 4 ปี จะต้องใช้งบประมาณรวมแล้ว 706 ล้านบาท
Leave a Reply