ตำรวจเพชรเกษมร่วมสืบ 9 รวบหนุ่ม ทำเนียนมาส่งกาแฟ ใช้ปืนปลอมพยายามชิงทรัพย์ร้านทองย่านเทิดไท

ตำรวจเพชรเกษมร่วมสืบ 9 รวบหนุ่ม ทำเนียนมาส่งกาแฟ ใช้ปืนปลอมพยายามชิงทรัพย์ร้านทองย่านเทิดไท

ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย ให้แต่ละหน่วยป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน
โดยเฉพาะความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งให้ระดมกวาดล้างจับกุม อาชญากรรม และผู้กระท าความผิดกฎหมายให้ได้ผลการจับกุมอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ให้ รู้สึกว่ามีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน  กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้ อำนวยการของ  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น.
กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 ภายใต้การอำนวยการของ  พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9พ.ต.อ.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง รอง ผบก.น.9 ได้ขับเคลื่อนนโยบาย ดังกล่าวและได้กำชับให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัดเร่งติดตามจับกุมคดีที่เกิดขึ้นให้ได้ตัวผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้เกิด ความเชื่อมั่นและศรัทธาในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลเพชรเกษม และกองกำกับการสืบสวน 9 ภายใต้การอำนวยการของ  พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์ บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.กก.สส.บก.น.9  ประกอบด้วย พ.ต.ท.ยุติธรรม มหานิล รอง ผกก. สส.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.ระมัด มาเอี่ยม  สว.กก.สส.บก.น.9 พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส.สน.เพชรเกษม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม และเจ้าหน้าที่ ตำรวจ  กก.สส.บก.น.9  ได้ร่วมกันจับกุมตัว  นายรัฐพงษ์ หรือโจ้  อายุ 42 ปีเศษ เลขบัตรประจ าตัวประชาชน 3-1012-00200-xxx ที่ อยู่ เคหะร่มเกล้า 29 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนปลอม รถจักรยานยนต์ หมวกกันน็อค และเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ ซึ่งต้องหาว่า กระทำผิดฐานพยายามชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยมอมหน้าหรือทำด้วย ประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือ จำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด  หรือทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ” ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี จ.289/2567 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2567 
ก่อนทำการจับกุมตัวผู้ต้องหานี้ได้มีคนร้ายใช้อาวุธก่อเหตุพยายามชิงทรัพย์ที่ร้านทองเยาวราช 9 (เทอดไท) ถนน
เทอดไท แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร แล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และร่วมกันวางแผนเพื่อติดตามคนร้าย ซึ่งต่อมาจากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายรัฐพงษ์ หรือโจ้ (ทราบชื่อ ภายหลัง) พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อศาล ซึ่งต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับตาม หมายจับของศาลอาญาธนบุรีที่ จ.289/2567 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2567  ต่อมาวันนี้ (30 มี.ค.2567) ได้ร่วมกันออก ติดตามผู้ต้องหามาที่บริเวณปากซอยชุมชนสถาพร พบนายรัฐพงษ์ อยู่บริเวณดังกล่าวมี ตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตาม หมายจับ จึงได้ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ  และแสดงบัตร พร้อมทั้งได้แสดงหมายจับให้นายรัฐพงษ์ ดูและอ่าน ข้อความตามหมายให้ฟัง นายรัฐพงษ์ ทราบและเข้าใจดีแล้วรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและยังไม่เคยถูกจับด าเนินคดี ตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ซึ่งจากการสอบถามนายรัฐพงษ์ รับว่าตามวันเวลาเกิดเหตุ ตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์มาที่ร้านทองคำที่เกิดเหตุจากนั้น ได้ทำทีว่าเอากาแฟมาส่งพนักงานในร้านจึงได้เปิดประตูให้ เมื่อเข้าไปร้านจึงได้หยิบเอาอาวุธปืนปลอมที่พกติดตัวไปด้วย ใช้ข่มขู่พนักงานในร้านซึ่งเป็นหญิงว่าให้เอาทองมารวมกัน แต่ พนักงานตกใจวิ่งหนี นายรัฐพงษ์ เห็นว่าไม่สามารถชิงเอาทองคำไปได้ จึงได้วิ่งออกจากร้าน แต่ไม่สามารถเปิดประตูไปได้ จึงได้หยิบเอาค้อนที่พกไปด้วย ขึ้นมาทุบประตูจำนวน 2 ครั้ง แต่ประตูไม่แตก จากนั้นสามารถเปิดประตูได้ จึงได้วิ่งหลบหนี ขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป แถวประชาอุทิศ ซึ่งได้มีจอดรถจักรยานยนต์ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า หมวกกันน๊อก และแผ่นป้าย ทะเบียนรถเป็นอีกคันเดิม เพื่อไม่ให้ใครจำได้ จนกระทั่งมาถูกจับกุม จากนั้นได้ยินยอมนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดเสื้อผ้า รถจักรยานยนต์ หมวกกันน๊อก อาวุธปืนปลอม ที่ใช้ในวันก่อเหตุ บางส่วนได้นำไปทิ้งน้ำเพื่อหลบหลีกการจับกุม เจ้า พนักงานตำรวจจึงได้ยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผบก.น.9 กล่าวว่ากรณีดังกล่าวต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่สามารถจับกุม ผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและลดความหวาดกลัวภัยให้กับประชาชน และเป็นหยุดการกระทำของ คนร้ายไม่ให้ไปก่อเหตุซ้ าอีก แต่อย่างไรก็ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านค้าทองในการป้องกันตนเองไม่ให้ตกเป็น เหยื่ออาชญากรรม ซึ่งจากแผนประทุษกรรมของคนร้ายส่วนใหญ่มักจะเลือกร้านที่ง่าย สะดวกต่อการก่อเหตุและสามารถ หลบหนีไปได้ เช่น ร้านที่ไม่มีเหล็กดัด ไม่มีรีโมทควบคุมการเปิด-ปิดประตูของร้าน มีกล้องวงจรปิดตัวเดียว ไม่มี รปภ. มี ผู้หญิงสูงวัยเป็นเจ้าของร้านขายทองอยู่คนเดียว เป็นต้น ก็จะเป็นช่องโอกาสให้คนร้ายเลือกเป็นเป้าหมายที่จะเข้ามาก่อเหตุ  ทั้งนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเพิ่มความเข้มวงรอบในการออกตรวจตราเพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายมาก่อเหตุ ในคดี นี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิดดูเส้นทางการหลบหนีและสามารถพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุและติดตาม จับกุมต่อผู้ก่อเหตุไว้ได้อย่างรวดเร็ว ก็ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย และต้องขอบคุณทางร้านทองที่มีการป้องกัน เป็นอย่างดี คนร้ายไม่สามารถที่จะชิงทรัพย์ทองคำไปได้
  

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link