หนุ่มชาวเมียนมาดวดเหล้าฉลองวันหยุดสงกรานต์พลัดตกจมหายไปในน้ำ ย่านราษฎร์บูรณะ

หนุ่มชาวเมียนมาดวดเหล้าฉลองวันหยุดสงกรานต์พลัดตกจมหายไปในน้ำ ย่านราษฎร์บูรณะ

วันที่ 12 เมษายน 2567 เวลา 22.00 น.

ร้อยตำรวจเอก สุทธา อินทร์แก้ว  รอง สว.สอบสวน สน.บางคอแหลม รับแจ้งมีผู้สูญหายภายในน้ำบริเวณท้ายซอย ราษฎร์บูรณะ ซอยที่ 3 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัย ราษฎร์บูรณะ และ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร. ) เขตราษฎร์บูรณะ พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิง ราษฎร์บูรณะ มาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่ภายในแคมป์พักคนงานก่อสร้างของบริษัทเอกชน ใกล้เคียงซอยราษฎร์บูรณะ ซอยที่ 3 ถนน ราษฎร์บูรณะ เเขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร  บริเวณด้านหลังของแคมป์พักคนงานเป็นลักษณะสันเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายในจุดเกิดเหตุพบขวดเหล้าขาว 40 ดีกรี 3 ขวด ถ้วยใส่ปลากระป๋อง 1 ถ้วย รองเท้าแตะสีดำ 1 คู่ และพบกระเป๋าแบบสะพายข้างสีน้ำตาล 1 ใบ ของผู้สูญหายภายในน้ำ ต่อมาทราบชื่อผู้สูญหายภายในน้ำชื่อ นาย อ่อง ทู ลุย อายุ 43 ปี เป็นชาวเมียนมา ซึ่งเป็นพนักงานทั่วไปของบริษัทดังกล่าว

จากการสอบถาม นาย ซอรวินโม อายุ 27 ปี เป็นชาวเมียนมา เป็นล่ามที่แปลจากเพื่อนที่นั่งกินเหล้าด้วยกันเล่าว่า คนที่ตกน้ำพอกินเหล้าเสร็จแล้วเค้าก็นอนสูบบุหรี่อยู่ริมเขื่อน แล้วพอเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาดูอีกทีก็หายไปแล้วและก็เลยมาบอกตนว่าเพื่อนได้ตกลงไปภายในน้ำแล้วและก็เห็นว่ามีแขนโผล่ขึ้นมาข้างนึงในลักษณะตะเกียกตะกาย ตนจึงมั่นใจว่าเพื่อนของมีคนตกลงไปภายในน้ำอย่างแน่นอน แต่อย่างไรแล้วเพื่อนก็ยอมรับว่าไม่ได้เห็นกับตาว่ามีคนตกลงไปในน้ำแต่ตนก็เห็นว่ามีแขนโผล่ขึ้นมาตนก็เลยเชื่อว่าน่าจะตกลงไปภายในน้ำเพราะไปดูภายในห้องพักแล้วไม่เห็นเพื่อนอยู่

หลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฟังเหตุการณ์ดังกล่าวจากคำบอกเล่าของกลุ่มเพื่อนของ นาย อ่อง ทู ลุย แล้วจึงประสานนักประดาน้ำของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และ เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิง ทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำมาถึงที่เกิดเหตุจึงเร่งจัดชุดประดาน้ำลงช่วยกันงมค้นหาร่างของ นาย อ่อง ทู ลุย ทันที ต่อมาเวลา 00.30 น. จึงงมร่างของนาย อ่อง ทู ลุย ขึ้นมาได้เป็นผลสำเร็จ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ว่านาย อ่อง ทู ลุย ได้เสียชีวิตแล้ว ในสภาพที่ร่างกายเปรือยเปล่าไม่ได้สวมเสื้อผ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ให้มาตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตภายในจุดเกิดเหตุทันที

แล้วต่อมาแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชมาถึงได้ตรวจสภาพร่างของผู้เสียชีวิตแล้วไม่พบบาดแผลใดๆ และจากสภาพแวดล้อมที่เกิดเหตุก็ไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ แต่อย่างไรแล้วจะต้องนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และเมื่อตรวจสอบเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วจะให้ญาตินำเอกสารไปรับร่างผู้เสียชีวิตนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link