แขกฆ่าสาวไทย ในโรงแรม ย่าน ตลาดพลู มีกล้องวงจรปิด
เมื่อเวลา13.20 น.
วันที่ 16 เมษายน 2567
พ.ต.ท.วงศกร แต่งตั้ง สว.(สอบสวน) สน.ตลาดพลู รับแจ้งเหตุฆาตรกรรมห้อง โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน ซ.วุฒากาศ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ภัสพงษ์ บุตรไทย รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.อ.ชรินทร์ บัวเผื่อนหอม ผกก.สน.ตลาดพลู ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บกน.8 ฝ่ายสืบสวน สน.ตลาดพลู เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราชและอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นโรงแรมสูง 5 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่ภายในห้องพัก ชั้น 2 ภายในห้อง ปลายเตียง ริมกำแพง ใต้โต๊ะกินข้าว พบศพ น.ส. สุกัญญา อายุ 51 ปี บ้านอยู่ ถนน จอมทอง แขวง บางค้อ เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีแดง กางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ลำตัวทั้งหน้า หลัง รวม 31 แผล เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง ใกล้กันพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายสภาพแบตฯหมดตกอยู่ พร้อมกับมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุตเปื้อนเลือด บริเวณหน้าห้องน้ำยังพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายวางชาร์จแบตไว้อีก 1 เครื่อง ระหว่างที่ตำรวจกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยังมีเจ้าหนี้โทรฯเข้ามาทวงหนี้จากผู้ตายอีกด้วย ภายในห้องข้าวของกระจายเกลื่อน เลือดกระจายเปื้อนกำแพงไปทั่วห้อง ยาวไปถึงในห้องน้ำและห้องแต่งตัว บนโต๊ะแต่งหน้ายังพบหมวกกันน๊อกแบบเต็มใบสีน้ำเงินของคนร้ายวางอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบเบื้องต้นทรัพย์สินผู้ตายยังอยู่ครบ
สอบถาม พนักงานต้อนรับ ให้การว่า ผู้ตายเข้ามาเปิดห้องพักดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา โดยมีผู้ชาย เป็นชาวอินเดียมาพักอยู่ด้วย ซึ่งผู้ตายจะมาที่ห้องนี้ช่วงเช้าของทุกวัน และกลับไปช่วงค่ำ โดยชายชาวอินเดีย ใช้รถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-เทา ทะเบียน 1กว 623 นครปฐม ก่อนเกิดเหตุ ช่วงใกล้เที่ยงได้ยินเสียงคนทะเลาะกันอย่างรุนแรงในห้องเกิดเหตุ จึงโทรศัพท์ขึ้นไปหาผู้เช่า ปรากฏว่า ฝ่ายชายเป็นผู้รับ แล้ววางสายถึง 2 ครั้ง สักพักเสียงทะเลาะก็เงียบไป จึงคิดว่าน่าจะคุยกันรู้เรื่องแล้ว จนกระทั่งบ่ายโมงเศษ เห็นชายคนดังกล่าวเดินลงมาจากชั้น 2 ทำทีเล่นโทรศัพท์ แล้วเดินออกไปหน้าปากซอยอย่างใจเย็น
ทางน้องสาวผู้เสียชีวิต (ไม่ประสงค์ออกนาม) บอกเล่าว่า ตนไม่รู้เลยว่าพี่ตนทำอะไร จนมารู้อีกที่ว่าพี่ตนตายแล้ว ก็ไม่รู้จะบอกว่าอะไร ปกติอยู่กับพี่สาวตลอด อยู่บ้านเดียวกัน เมื่อเช้าพี่ตนก็พาแม่ไปฟอกไต ไปกับพี่เลี้ยงอีกคน ประมาณ 8 โมงครึ่ง พอส่งแม่เข้าห้องฟอกไตก็เบี่ยงออกมาธุระ เค้าไม่ได้บอกว่าจะไปไหน บอกแค่ว่าเดี๋ยวบ่ายโมงกลับมา มารู้ตอนเที่ยงกว่าบ่าย แต่ตนรู้ตอนบ่าย 3 แล้ว รู้จากหลานอีกที แต่ตำรวจแจ้งไปทางพี่เขยตนว่า ถูกฆาตกรรม ยังไม่เห็นสภาพพี่สาวเลย ตอนนี้เค้ารู้ตัวแล้วเห็นว่าขึ้นรถตู้ไปแล้ว ตอนนี้กะลังจะออกหมายจับ เป็นชายชาวอินเดีย ตนไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับชายคนนี้เลย เพราะตนไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวกัน
ส่วนทางด้านลูกชายของผู้เสียชีวิต บอกเล่าว่า ตนและที่บ้านไม่มีใครรู้เรื่องแม่เลย แม่ปิดกั้นเรื่องนี้มาตลอด เช้าก็ออกไปทำงาน กลับมาก็ปิดโทสับ ปกติ ออกไปก็ ตี 5 บ้าง 6 โมงบ้าง เย็นก็กลับเข้ามา 6 โมงนิดๆ ทุ่มบ้าง แม่ทำงานเป็นแม่บ้าน แต่ไม่รู้ที่ไหน เพราะเปลี่ยนหลายที่มาก แม่ก็อยู่กับพ่ออยู่กับที่บ้านด้วยกัน กับผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นทางชู้สาว เมื่อเช้าแม่บอกว่าจะพายายไปฟอกไต แต่มาโผล่ที่นี่ก็ยัง งง อยู่เลย ว่ามาเกิดเหตุที่นี่ได้ยังไง ก่อนหน้านี้แม่บอกว่า ช่วงเดือนกุมภา เคยโดนเรื่องแฮกเฟส ไปแจ้งความจับ และถูกส่งกลับประเทศไปแล้ว รูปชายคนนี้เคยเห็นในเฟส ถามแม่ก็บอกว่าโดนแฮกเฟส เบี่ยงเบนเฉไฉไป พ่อก็ถาม ก็บอกว่าโดนแฮกเฟสตลอด แต่ดูแล้วไม่น่าจะใช่เพราะดูจากการถ่ายรูปดูสนิทสนมกันมาก ตอนนั้นคิดว่าน่าจะทางชู้สาว แต่แม่บอกไม่ใช่ คิดว่าน่าจะคบกันนานแล้ว ถ้าไม่นานไม่น่าจะมานอนกันแบบนี้ ก่อนหน้านี้เคยมีบาดแผลพอถามก็บอกว่าตกรถ รอยช้ำตามแขน และ หลัง พอตอนนี้มาเกิดเรื่องแล้วเห็นภาพ ก็กลัวว่า คนร้ายจะหนีออกนอกประเทศ ส่วนทรัพย์สิน ไม่มีอะไรหายไป คิดว่า ปมเหตุน่าจะมาจากเรื่องเงินมากกว่า หวังว่าตำรวจจะตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด
จากการตรวจสอบรายชื่อคนร้ายรายนี้ทราบชื่อ นายยาเดฟ อายุ 32 ปี ชาวอินเดีย ซึ่งถูกผลักดันให้ออกนอกประเทศไปเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา แล้วหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เข้ามาเช่ารถจยย.ที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ขี่รถจยย.มาพักอยู่กับ น.ส.สุกัญญา ที่แอบคบหากันในห้องที่เกิดเหตุ ซึ่ง น.ส.สุกัญญา มีอาชีพเป็นแม่บ้าน โดยสามีทำงานรับเหมาปูกระเบื้อง ผู้ตายจะบอกกับลูกทุกวันว่าออกไปเยี่ยมยายที่ป่วยติดเตียงที่บ้านพักย่านจอมทอง แต่ไม่เคยไปถึงบ้านยายเลย ซึ่งหลังก่อเหตุคนร้ายได้เดินไปขึ้นรถ จยย.รับจ้างหน้าปากซอยวุฒากาศ 14 ว่าจ้างให้ไปขึ้นรถตู้ที่วินข้างห้างพาต้า ปิ่นเกล้า ระบุปลายทางไป อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนได้ประสานตำรวจ จ.กาญจนบุรี และระดมกำลังกันไปที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้เป็นการด่วนแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้เร่งออกหมายจับให้ได้ภายในวันนี้และคาดว่าจะได้ตัวคนร้ายในเร็วๆนี้
Leave a Reply