“ตำรวจ ปส.ไล่ล่าสกัดทีมนักบินตายแทนซิ่งแหกหนีตายกลางไฮเวย์ ได้พร้อมยาบ้ากว่า 12 ล้านเม็ด”

“ตำรวจ ปส.ไล่ล่าสกัดทีมนักบินตายแทนซิ่งแหกหนีตายกลางไฮเวย์ได้พร้อมยาบ้ากว่า 12 ล้านเม็ด”
เมื่อ 2 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.สกส.บช.ปส. ร่วมกันจับกุม
ผู้ต้องหา 2 คน ดังนี้
1. นายธีรภัทร ฯอายุ 26 ปีอยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
2. น.ส.นงนุช ฯอยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พร้อมของกลาง จำนวน 3 รายการ ประกอบด้วย
1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 28 กระสอบ ใหญ่ และ 1 กระสอบเล็ก รวม
เป็นยาบ้าทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 11,950,000 เม็ด(ซุกซ่อนภายในรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น
Hilux Revo สีขาว ทะเบียน บษ 1573 พระนครศรีอยุธยา)
2. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น Hilux Revo สีขาว ทะเบียน บษ 1573 พระนครศรีอยุธยา
(รถยนต์ที่ใช้ในการซุกซ่อนและลำเลียงยาเสพติด)
3. โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
โดยกล่าวหา ผู้ต้องหาว่า 1-2 ว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมท
แอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่ม
ประชาชน หรือเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ”
สถานที่เกิดเหตุ จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้ที่บริเวณ ริมถนนในหมู่บ้าน ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย จังหวัด
พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 10.30 น.
พฤติการณ์ในการจับกุม
ก่อนเกิดเหตุ เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. รับแจ้งจากสายลับจะมีกลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์ น่าเชื่อว่ามี
พฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคอีสานตอนบน และจะนำมาส่งให้ลูกค้าตามสั่งการของผู้ว่าจ้างใน
พื้นที่กทม.และปริมณฑล โดยจะใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคล จำนวน 2 คัน เป็นรถนำ/สำรวจเส้นทาง และรถยนต์
บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อTOYOTA รุ่น Hilux Revo สีขาว ทะเบียน บษ 1573 พระนครศรีอยุธยา (รถที่ใช้ในการซุก
ซ่อนลำเลียงยาเสพติด) โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวใช้เส้นทางจากพื้นที่ชายแดน จว.นครพนม ผ่าน จว.นครพนม – จว.
อุดรธานี- จว.ขอนแก่น – จว.นครราชสีมา -จว.สระบุรี- จว.พระนครศรีอยุธยา จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมาเวลาประมาณ 06.00 น. (2 พ.ค.67) เจ้าพนักงานตำรวจชุดปฏิบัติการ ได้ออกติดตามรถยนต์
เป้าหมายทั้ง 2 คัน ในพื้นที่จว.นครราชสีมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.30 น. พบรถทั้งสองคัน ขับ นำและตาม
ทิ้งระยะประมาณ 3-5 กม. จึงได้สะกดรอยติดตามเป้าหมายทั้งสองคัน จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. รถยนต์
เป้าหมายทั้งสองคันเร่งเครื่องเพิ่มความเร็ว น่าจะทราบว่ามีการสะกดรอยติดตาม จากนั้นทั้งสองคันพยายามขับ
หลบหนีเจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.30 น. รถยนต์ทะเบียน บษ 1573
พระนครศรีอยุธยา เสียหลักพุ่งชนไฟฟ้า ริมถนนในหมู่บ้าน ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อตรวจสอบ พบนายธีรภัทรฯ เป็นผู้ขับขี่ และ น.ส.นงนุช ฯโดยสารมาด้วย ได้รับบาดเจ็บ
สอบถามเบื้องต้นทั้งสองคนยอมรับว่าลำเลียงยาเสพติดของกลางมาจากพื้นที่ จว.หนองคาย สำหรับ น.ส.นงนุช ฯ ซึ่ง
ได้รับบาดเจ็บแน่นหน้าอกเนื่องจากได้รับแรงกระแทกขณะรถชนเสาไฟฟ้า ได้ประสานเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาล
เบื้องต้น และผู้ได้นำตัว น.ส.นงนุชฯ ผู้บาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลวังน้อย เพื่อทำการรักษาต่อไป ผลการตรวจแพทย์
ได้ทำการเย็บแผลที่ปาก ทำการ X-RAY ไม่พบอาการบาดเจ็บหรือกระดูกแตกหักแต่อย่างใด จึงได้ทำการฉีดยา
บาดทะยัก และให้ยามารับประทาน ส่วนรถยนต์เป้าหมายอีกคันใช้ความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้
จากการซักถามผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจริง โดยนายธีรภัทรฯ
รับว่า ตนและภรรยา น.ส.นงนุชฯ มีอาชีพรับจ้างขับรถยนต์ส่งสินค้าของบริษัทขนส่งเอกชนเคอรี่ โดยใช้รถยนต์ของ
ตนที่เช่าซื้อมา ต่อมาตนและน.ส.นงนุชฯ ได้รับการชักชวนจากเพื่อนให้มาลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ริมแม่น้ำโขงจาก
จ.นครพนม ไปส่งที่ จ.อยุธยา จะได้รับค่าจ้างครั้งละ 50,000 บาท โดยตนและภรรยาได้ทำลักลอบทำมาแล้ว 1
ครั้งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรก เมื่อวันที่ 27-28 เม.ย.67 ที่ผ่านมา โดยไปรับยาบ้ามา 14 กระสอบ จากนครพนม
ส่งแถวพื้นที่อ.วังน้อย ร่วมกับกับเพื่อนๆ พร้อมรถยนต์4คัน และในครั้งนี้ได้ร่วมกับเพื่อนๆที่จะคอยขับรถยนต์นำ
ทางอีกสองคัน ตนเป็นคนขับรถบรรทุกยาเสพติด พากันไปรับยาเสพติดจากพื้นที่ จ.หนองคาย แล้วพากันเดินทางมุ่ง
หน้าจังหวัดอยุธยา ระหว่างทางตนกับพวกที่คอยขับรถยนต์เฝ้าระวังจะโทรศัพท์ประชุมสายกันตลอดเส้นทาง ได้
สังเกตุเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่คอยติดตาม จึงได้แยกย้ายขับรถยนต์หลบหนี และตนได้ขับรถยนต์เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า
และถูกจับกุมดังกล่าว ส่วนพวกที่เหลือหลบหนีไปได้
ประวัตินายธีรภัทรฯ เคยถูกจับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ( ยาบ้า จำนวน 809 เม็ด ,ข้อหา
ครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายฯ ที่ สภ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา ศาลพิพากษาจำคุก 7 ปี12 เดือน
สารภาพลดเหลือ จำคุก 3 ปี4 เดือน 15 วัน พ้นโทษมาประมาณ 2 ปี
สำหรับในส่วนรถยนต์ทั้งสองคันมีหน้าที่ขับรถนำทางเพื่อสำรวจเส้นทางและด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ และ
คอยแจ้งข้อมูลด่านเส้นทางให้กับรถที่บรรทุกยาเสพติดที่ผู้ต้องหาขับตามหลังมาที่หลบหนีไปนั้น ชุดจับกุมจะได้
สืบสวนขยายผลเพื่อออกหมายจับ และติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ตันตินวชัย ผบช.ปส.เผยว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นทีมงานลำเลียงตายแทน ที่อาศัยฉววโอกาสที่ตน
มีอาชีพขับรถยนต์รับจ้างขนสินค้ากับบริษัทขนส่ง มาลักลอบขนยาเสพติดดังกล่าว และได้ค่าจ้างเพียง 50,000
บาท แต่ก็ไม่รอดพ้นจากสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการสืบสวนจนสามารถจับกุมได้ ฝากถึงใครที่จะเข้ามาใน
วงการนี้ขอให้คิดให้ดีเพราะแม้รอดพ้นทำงานได้สำเร็จในครั้งแรก และได้เงินมาง่ายๆ แต่สุดท้ายท่านจะถูก
เจ้าหน้าที่จับกุมแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนกันอย่างเข้มข้นอยู่ตลอดเวลา และท่านจะต้องเสีย
อิสระภาพและโทษที่จะได้รับถึงประหารชีวิต ไม่คุ้มกับค่าจ้างที่จะได้รับ และในปีนี้บช.ปส.จะยังคงความเข้มข้นใน
การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดและการขยายผลการจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้า ผู้สั่งการที่อยู่เบื้องหลัง ที่
ผ่านมาสามารถออกหมายจับและจับกุมได้จำนวนหลายรายและยึดทรัพย์ได้จำนวนมาก

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link