ผัวน้อยใจเมียไปทำงานเ มืองนอกไม่กลับมาเยี่ยมบ้าน แขวนคอลูกชายประชด

เกิดเหตุสลดผัวน้อยใจเมียไปทำงานเมืองนอกไม่กลับมาเยี่ยมบ้าน ระแวงปันใจให้ชายอื่น อุ้มลูกที่กำลังนอนแขวนคอกับขือหน้าบ้านและผูกคอจะตายตายพร้อมกับวีดีดอคอลโชว์ให้เมียดู โชคดีญาติช่วยเหลือส่งโรงพยาบาลได้ทัน

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันนี้(3ต.ค.)ได้เกิดเหตุเศร้าสลดขึ้นที่ บ้านเลขที่ 117 หมู่ 9 บ้านป่าก้าว ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี โดยสามีของเจ้าของบ้าน ได้จับลูกชายวัย 2 ขวบ แขวนคอกับขื่อหน้าบ้าน หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้แขวนคอตายตาม ขณะก่อเหตุ ได้เปิดวีดีโอคอล ผ่านทาง messenger ให้ตัวภรรยา ที่เป็นเจ้าของบ้าน และทำงานอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ดู
ทันทีที่ฝ่ายหญิงที่เป็นภรรยาได้ดูภาพ รีบโทรศัพท์กลับมาหาผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ให้เร่งเข้าช่วยเหลือทันทีเพราะเป็นห่วงลูกชายจะได้รับอันตราย

แต่โชคดีขณะมีการวิดีโอคอล พี่ชายของภรรยาที่เป็นเจ้าของบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้กัน ได้ยินเสียงพูดคุยโต้เถียงระหว่าง 2 สามีภรรยา จึงรีบมาดู พบว่าหลานชายวัย 2 ขวบ และตัวสามีเจ้าของบ้านที่เป็นน้องเขย ผูกคอกับขื่อหลังคาหน้าบ้าน จึงนำมีดตัดเชือกช่วยชีวิตหลานชายและน้องเขยส่งโรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม และไหว้วานให้เพื่อนบ้านโทรแจ้ง 1669 และแจ้ง 191 และหน่วยกู้ชีพมาช่วยเหลือส่งโรงพยาบาลฯ ทีมแพทย์ได้ช่วยเหลือจนทั้งคู่ปลอดภัยแล้ว

ล่าสุดเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ โดยมีนางจำรัส จันทะสิงห์ ผู้ใหญ่บ้านป่าก้าว พาตรวจสอบบ้านภายในบ้าน พบที่แคร่หน้าบ้านมีเชือกไนล่อนสีเขียว และสีแดง ถูกตัด วางอยู่ และมีดอีโต้ 1 เล่ม ขณะที่คานหน้าบ้าน มีร่องรอยถูกมีดสับ 2 แห่ง ที่เป็นจุดที่มีการแขวนคอ นอกจากนี้ยังพบถังแก็สที่ล้มอยู่ใต้จุดที่ใช้ปีนแขวนคอ ขณะที่พื้นหน้าบ้านมีรอยเลือดกองอยู่ 1 แห่ง และรอยเลือดติดที่รองเท้าแตะที่วางอยู่ใกล้กัน

นางจำรัส เล่าว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันเดียวกันนี้ ตน ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จาก นางนฤมล ฤทธิ์สิงห์ อายุ 34 ปี ลูกบ้านซึ่งไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ว่า นายวิรุจน์ อะรัมพระ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นสามี ได้จับ ด.ช.เอ นามสมมุติ อายุ 2 ปี 6 เดือน ลูกชายแขวนคอกับขื่อหน้าบ้าน และกำลังผูกคอตายตาม พร้อมกับวีดีโอคอล ทาง messenger โชว์ จึงรีบไปชวยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเข้ามาตรวจสอบ

พบ นายวิษณุ พี่ชายนางนฤมล ซึ่งอยู่บ้านใกล้กัน ใช้มีดตัดเชือกที่แขวนคอน้องเอ ซึ่งถูกจับแขวนคอใบหน้าเขียว คาดว่าหมดลมหายใจไปแล้ว ตนจึงอุ้มร่างของหนูน้อยลงมาปั๊มหัวใจช่วยชีวิต และตัดเชือกไนล่อนที่แขวนคอนายวิรุจน์ ลงมาจากขื่อตกลงมาศีรษะกระแทกถังแก๊ส ศีรษะแตก และปั๊มหัวใจก่อนนำส่งโรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม

ด้าน นายวิษณุ ฤทธิสิงห์ พี่ชายนางนฤมล เล่าอีกว่า วันเกิดเหตุตนเดินทางกลับมาเยี่ยมแม่ ซึ่งมีบ้านใกล้ๆกน ทราบว่า น้องสาว เพิ่งเดินทางไปทำงานนวดที่สิงคโปร์ได้ราว 1 สัปดาห์เศษ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ขณะเกิดเหตุนั้น ตนกำลังจะเข้านอน จู่ๆได้ยินเสียงน้องสาวร้องไห้และด่าสามีทางโทรศัพท์ว่า “มึงคือชั่วแท้” ตนจึงโทรศัพท์ไปหาน้องสาว ซึ่งน้องบอกตนว่า นายวิรุจน์จับน้องเอแขวนคอกับขื่อหน้าบ้าน และผูกคอตายตาม โดยถ่ายวีดีโอคอลให้ดู

สำหรับนางนฤมล แต่งงานอยู่กินกับนายวิรุจน์ มาเกือบ 20 ปี มีบุตรชาย 3 คน คนโตอายุ 16 ปี คนกลางอายุ 12 ปี และน้องเอ อายุ 2 ปี 6 เดือน นายวิรุจน์มีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่ระยะหลังไม่ได้ทำงาน เพราะป่วยโรคเก๊าต์ ทำให้นางนฤมลต้องเป็นเสาหลักของบ้าน และเมื่อเดือนเมษายน ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้มาสร้างบ้านโครงการบ้านอุ่นรัก ซ่อมสร้างบ้านมอบให้ นางนฤมลไปทำงานนวดแผนโบราณ หาเงินเลี้ยงครอบครัวและลูกทั้ง 3 คน เมื่อต้นปี 2562 ก็เคยไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย 1 เดือน นายวิรุจน์ก็พยายามผูกคอตายที่ต้นมะขาม แต่ลูกชายทั้ง 3 คน ได้มาห้ามทัน

นางจำรัสเล่าต่อว่า เหตุสลดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะนายวิรุจน์ น้อยใจ ที่เมียไม่กลับมาเยี่ยมบ้าน แม้จะอ้างว่าลูกไม่สบาย เมียก็ไม่สนใจ เข้าใจว่าเมียเปลี่ยนไป และจะฆ่าตัวตายโดยเอาลูกไปด้วย และไม่ต้องกลับมาเผา จากนั้นก็วีดีโอคอลโชว์ให้เมียดู ด้วยการอุ้มน้องเอ ซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ในบ้านกับพี่ชาย 2 คน ออกมาแขวนคอ และผูกคอตัวเองตายตาม โชคดีที่มาช่วยทัน.

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link