ปภ.ขับเคลื่อนการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ติดทะเล 7 จังหวัดภาคใต้
วันนี้ (8 ก.ย. 63) เวลา 09.00 น. ที่ห้องเฟื่องฟ้า โรงแรมหาดใหญ่ พาราไดซ์ โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดสงขลา นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธานพิธีเปิดการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดขึ้น เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการวางแผนรองรับการอพยพ การดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราว การปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวและส่งผู้ประสบภัยกลับเข้าพื้นที่
อย่างปลอดภัย ซึ่งการฝึกอบรมฯ ดังกล่าว เป็นการนำร่องการขับเคลื่อนการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราวก่อนขยายผลไปยังพื้นที่เสี่ยงภัยทั่วประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยมีศูนย์พักพิงชั่วคราวที่สามารถรองรับผู้ประสบภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล และสอดคล้องกับบริบทของสังคมไทย รวมถึงก้าวสู่เป้าหมายประเทศไทยปลอดภัยอย่างยั่งยืน
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
เปิดเผยว่า บทเรียนจากสาธารณภัยในช่วงที่ผ่านมาหลายครั้งที่มีพื้นที่
ได้รับผลกระทบและต้องอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย
โดยหลังจากเหตุการณ์พายุโซนร้อนปาบึก เมื่อช่วงต้นปี พ.ศ. 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระราชทรัพย์บริจาคแก่รัฐบาล เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ
โดยเฉพาะการสร้างศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับการอพยพของผู้ประสบภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด รวม 12 แห่ง เพื่อดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย
ในช่วงที่เกิดสถานการณ์ภัย แยกเป็น นครศรีธรรมราช 4 แห่ง ชุมพรและสุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 2 แห่ง ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส จังหวัดละ 1 แห่ง และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้จัดโครงการขับเคลื่อนการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยจัดฝึกอบรม
ให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว ในวันที่ 8 – 11 กันยายน พ.ศ. 2563 ให้แก่บุคลากรของกรมป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้ง 7 จังหวัด เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการบริหารและแนวทางการปฏิบัติในการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการวางแผนรองรับการอพยพ การดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราว การปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวและส่งผู้ประสบภัยกลับเข้าพื้นที่อย่างปลอดภัย รวมถึงเป็นการนำร่องการขับเคลื่อนการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราวก่อนขยายผลไปยังพื้นที่เสี่ยงภัยทั่วประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยมีศูนย์พักพิงชั่วคราวที่สามารถรองรับผู้ประสบภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล และสอดคล้องกับบริบท
ของสังคมไทย รวมถึงก้าวสู่เป้าหมายประเทศไทยปลอดภัยอย่างยั่งยืน โดยมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด 7 จังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขา 8 สาขา ผู้แทนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ที่ทำการปกครองจังหวัด สำนักงานท้องถิ่นจังหวัด และประธานศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนจังหวัดสาขา เข้าร่วมการอบรมฯ
“การเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องในด้านการบริหารจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราวแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นกลไกสำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือ
ต่อจากการอพยพในภาวะฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์พักพิงชั่วคราวต้องสามารถประสานและปฏิบัติงาน
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลือบรรเทา
ความร้อนเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ หัวใจของการบริหารศูนย์พักพิงชั่วคราว คือ การดูแลให้ผู้ประสบภัยที่พักอาศัยอยู่ในศูนย์แห่งนี้มีความปลอดภัยและมีความเป็นอยู่ที่ดีจนกว่าสถานการณ์ภัยจะยุติ และประชาชนกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติในพื้นที่ ซึ่งการอบรมในครั้งนี้
จะทำให้ทุกภาคส่วนมีความพร้อมในการปฏิบัติงานในศูนย์พักพิงชั่วคราวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างดีที่สุด หากเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น” อธิบดี ปภ.กล่าว
สำหรับศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนราธิวาส จะเปิดใช้พื้นที่ได้ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2563 ส่วนศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่ 6 จังหวัด
รวม 11 แห่ง จะเปิดใช้พื้นที่ได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2564
ทั้งนี้ ได้วางแนวทางการใช้ประโยชน์จากศูนย์พักพิง
ให้คุ้มค่า โดยในภาวะปกติ จะใช้เป็นอาคารเอนกประสงค์สำหรับประกอบกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน ภาวะเกิดภัยพิบัติ จะใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวที่พร้อมรองรับการอพยพประชาชนได้ทันที
Leave a Reply