จากกรณีแม่จูงมือลูก เข้าแจ้งความ สภ.เทพสถิต หลังถูกหนุ่มใหญ่แอบเข้าหน้าต่าง ลวนรามลูกสาว หลังจากที่เมายาหลอนหนัก เด็กสาวใช้วิธีเกี้ยกล่อมให้ตายใจรอดพ้นการถูกข่มขืนสำเร็จ ตำรวจรวบตัวในคืนนั้นทันที ผ่านคดีมาโชกโชน
เมื่อเวลา 13.00น.ของวันที่ 8 กย.2563 (เมื่อวาน)ที่ผ่านมา ร.ต.ท.สำอาง มาประจวบ ด.ต.ไพโรจน์ วงษ์นรา สายตรวจตำบลนายางกลัก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ได้รับแจ้งจาก นาง ลำไย คำพา อายุ65ปี ชาวบ้านคลองผักหวาน ตำบลโป่งนก อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ว่ามีเหตุชายเข้ามาลวนรามลูกสาวนางสาว เอ (นามสมมุติชื่อ )อายุ21ปี ลูกสาวซึ้งเป็นลูกสาว หลังรับแจ้งจึง ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้น และหลุดออกตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.ต.วุฒิชัย เยิมสูงเนิน เจ้าพนักงานสอบสวนเวรสภ.เทพสถิต ต่อมาสายตรวจตำบลนายางกลัก โดย ร.ต.ท.สำอาง มาประจวบ ด.ต.ไพโรจน์ วงษ์นรา พร้อมกับ อส.ตร.ตำรวจบ้าน สมารถจับกุมตัวนาย สาธิต หรือ ต้น พาอีเม้ง ได้ที่บ้านพัก ในเวลาต่อมา พร้อมกับส่งมอบตัวผู้ต้องหา ให้กับ พ.ต.ต.วุฒิชัย เยิมสูงเนิน พนักงานสอบสวน สภ.เทพสถิต จากการสอบถาม นายสาธิต หรือ ต้น พาอีเม้ง อายุ 31 ปี หนุ่มใหญ่ในหมู่บ้านติดกัน ได้แอบปีนเข้ามาทางหน้าต่าง ขณะที่นางสาวเอ กำลังนอนเล่นโทรศัพท์ ภายในห้องนอน จากนั้นนายสาธิต หรือ ต้น ได้ถลกมุ้งขึ้นแล้วกระโจนเข้ามาทำการปลุกปล้ำ นางสาวเอโดยไม่ทันตั้งตัว จนทำให้นางสาวเอ ตกใจสุดขีด แต่เนื่องจากยังมีสติ จึงได้พูดจาหว่านล้อมต่างๆนาๆ โดยพยายามทำเป็นใจดีสู้เสือ บอกว่ายังไม่พร้อม และมีความรู้สึกว่าชอบพอเป็นการส่วนตัวอยู่ แต่วันนี้แม่กำลังจะกลับมาจากไปซื้อของที่ร้านค้า ข้างบ้านและที่สำคัญ มันเป็นเวลาช่วงกลางวัน เกรงว่าจะมีคนเห็น จึงขอนัดให้มาหาวันหลัง ฝ่ายผู้ก่อเหตุหลงกลเข้าใจว่านาวสาวเอ ยินยอมและชอบพอจริง จึงยอมปล่อยมือ และขอเบอร์โทรศัพท์ จากนั้นยังขอให้นางสาวเอ เดินมาส่งที่ประตูหลังบ้าน และรีบวิ่งหนีไป
นางลำไย เล่าต่อด้วยอารมณ์ขุ่นมัวว่า ตนรู้สึกหวาดกลัวและเกรงจะไม่เกิดความปลอดภัย เนื่องจากตนอยู่บ้านเพียงลำพังกันสองคน กับลูกสาว เพราะสามีติดคุก และที่สำคัญผู้ก่อเหตุข้องเกี่ยวกับเสพยาเสพติด เคยมีคดีและพึ่งพ้นโทษออกมา ซึ่งในช่วงที่อยู่ในคุกได้รู้จักกับสามีตน รู้ว่าตนมีการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างไร หลังจากที่พ้นโทษออกมาก่อนสามีตน ผู้ก่อเหตุได้เคยวนเวียนมาที่บ้านหลายครั้ง
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เทพสถิต สามารถควบคุมตัวได้ที่บ้านพักของผู้ก่อเหตุเอง ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดกัน โดยเบื้องต้นผู้ก่อเหตุยอมรับว่าได้เข้าไปในบ้านจริง แต่ยังไม่ได้ทำการข่มขืน สาเหตุที่เข้าไปในบ้านเนื่องจากรู้จักกับนางสาวเอ และพ่อของนางสาวเอ ขณะที่อยู่ในคุก และเข้าไปเพื่อพูดคุยในฐานะคนรู้จักกันเท่านั้น
อย่างก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ปักใจเชื่อ ได้นำไปตรวจฉี่พบเป็นสีม่วง จึงได้ตั้งข้อหาเบื้องต้น เสพยาเสพติด กระทำการอนาจาร และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางวัน ไว้ก่อน
คำหอม ชุมชน 02 ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ
Leave a Reply