ผู้ว่าสมุทรสาคร ยืนยันผลอย่างเป็นทางการพบผู้ติดเชื้อโควิดแล้ว 7 ราย ด้านอนุทินฯ ลงพื้นที่กลางคืนดูการตรวจสารคัดหลั่ง ย้ำชัดอยากปลอดภัยต้องสวมหน้ากากอนามัยจากเหตุการณ์ที่มีการพบผู้ป่วยโควิด -19 ในจังหวัดสมุทรสาคร 1 ราย หญิงชาวไทยวัย 67 ปี อาชีพค้าขายกุ้งและปลา อยู่ในตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร ตามที่ได้เคยเสนอข่าวไปแล้ว กระทั่งเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ก็ได้แถลงผลพบผู้ติดเชื้อยืนยันเพิ่มอีก 3 ราย คือ มารดา (คนในครอบครัว) วัย 95 ปี,พี่สาว (คนในครอบครัว) อายุ 73 ปี,น้องสะใภ้(คนในครอบครัว) อายุ 57 ปีนั้น
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันที่ 18 ธันวาคม 2563 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เรียกประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร และคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อแจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์โรคโควิดในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ,การเตรียมความพร้อมของ Local Quarantine จังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงเรื่องพิจารณาเกี่ยวกับระบบการขนส่งสินค้าในตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร , ศูนย์ตรวจแรงงานต่างด้าว One Stop Service ที่เปิดในจังหวัดสมุทรสาคร และการกำหนดรูปแบบในการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก เป็นต้น โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง
จากนั้นนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้แถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สถานการณ์โดยรวม ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2563 พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด โดยได้รับการยืนยันผลอย่างเป็นทางการแล้วรวมทั้งสิ้น 7 ราย ได้แก่ 1.หญิงวัย 67 ปี ซึ่งเป็นผู้ค้ากุ้งค้าปลาที่เป็นผู้ติดเชื้อรายแรก , 2.มารดา (คนในครอบครัว) วัย 95 ปี, 3.พี่สาว (คนในครอบครัว) อายุ 73 ปี, 4.น้องสะใภ้(คนในครอบครัว) อายุ 57 ปี,5.ลูกจ้างชายชาวเมียนมา อายุ 40 ปี, 6.พ่อค้าในตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีการติดต่อซื้อขายกับผู้ติดเชื้อรายแรก อายุ 42 ปี (ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 18 คน) และ เสมียนหญิง อายุ 24 ปี (ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 18 คน) ขณะที่ในส่วนผู้ที่ผลยังไม่ยืนยันนั้น ก็จะต้องรอผลอย่างเป็นทางการก่อนถึงจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ด้านมาตรการในการควบคุมโรคที่เพิ่มเติมเข้ามานั้น ก็เรื่องของการห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวออกนอกพื้นที่ รวมถึงให้มีการหยุดให้บริการชั่วคราวของศูนย์ตรวจแรงงานต่างด้าว One Stop Service ส่วนการสวมหน้ากากอนามัย กับการคัดกรองนั้นต้องทำอย่างเข้มข้นมากขึ้นด้วย แต่ด้านการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ยังไม่ได้ออกคำสั่งห้ามแต่อย่างใดทั้งสิ้น
นายวีระศักดิ์ฯ กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นคำถามที่หลายคนให้ความสนใจและต้องการคำตอบมากที่สุดคือ ต้นตอของโควิดรายนี้มาจากไหน ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้เพราะต้องรอการทำไทม์ไลน์ที่ชัดเจน และต้องหาขอบเขตของกลุ่มเสี่ยงให้ได้ก่อน ซึ่งหากได้ข้อมูลที่ชัดเจนก็จะทำให้สามารถค้นหาและทราบต้นตอที่มาของโรคโควิดครั้งนี้ได้
ส่วนนายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลของรัฐทั้ง 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลกระทุ่มแบน และโรงพยาบาลบ้านแพ้ว มีความพร้อมในการเตรียมรับผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งสถานที่ บุคลากรทางการแพทย์ และอุปกรณ์เครื่องมือ อีกทั้งยังได้ทางกระทรวงสาธารณสุขให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งก็เชื่อมั่นได้ว่า จังหวัดสมุทรสาคร จะสามารถควบคุมโรคได้อย่างแน่นอน
นายแพทย์ชาติชาย กิติยานันท์. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้บอกด้วยว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันแม้จะมีความเสี่ยงสูงเพราะเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ต่างจากคราวที่แล้ว แต่ทางทีมสอบสวนโรคก็ได้ลงทำงานอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาผู้ป่วยออกมารับการรักษาตัว โดยขณะนี้จุดที่เสี่ยงสูงคือ พื้นที่ตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร จึงต้องทำการตรวจสารคัดหลั่ง หรือ Swab ให้ครบถ้วน 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่มีความเสี่ยงก็ต้องทำการตรวจสอบด้วยเช่นเดียวกัน อาทิเช่น ตลาดทะเลไทย และหอพักศรีเมือง ซึ่งอยู่รอบๆ พื้นที่ตลาดกลางกุ้งจังหวัดสมุทรสาคร เป็นต้น
ต่อมาเวลา 20.50 น. วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้เดินทางมายังตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อตรวจเยี่ยมการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ตลาดกลางกุ้งด้วยรถตรวจโควิด-19 เคลื่อนที่พระราชทาน ที่ได้มาตรวจที่สมุทรสาคร 2 คัน และอีก 2 คัน คือ รถของโรงพยาบาลสมุทรสาครและโรงพยาบาลบ้านแพ้ว โดยมีนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค, นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร และคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดสมุทรสาคร ให้การต้อนรับ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้เน้นย้ำว่าตอนนี้แม้จะพบผู้ป่วยและผู้ที่มีความเสี่ยงสูงมากกว่า 10 ราย แต่ทุกคนก็อยู่ในการดูแลของแพทย์แล้ว ส่วนบุคคลที่ไม่อยากติดโควิดก็ต้องสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยอย่างเข้มข้น ต้องพกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือติดกับตัว.ในด้านการควบคุมโรคตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ทำงานกันแบบเข้มข้น ซึ่งจะเห็นได้จากที่ระดมตรวจแรงงานต่างด้าวในตลาดกุ้งพื้นที่เกิดเหตุที่ต้องตรวจให้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์ และหากประชาชนใกล้เคียงที่คิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงให้แจ้งความประสงค์ขอตรวจได้ โดยจะตรวจให้ฟรี ส่วนเรื่องการหาต้นสายปลายเหตุทางทีมสอบสวนจะเร่งคลี่คลายโดยเร็ว แต่เชื่อว่าแผนการควบคุมโรคที่ทำตอนนี้จะควบคุมได้ ประชาชนยังใช้ชีวิตได้ตามปกติเพียงแต่ต้องป้องกันตนเองแบบเข้มข้น
ที่มาเสียงสาคร
Leave a Reply