จากเรื่องราวในเฟสบุ๊คใช้ชื่อว่า Attakorn Wongcharoenchaichana ได้โพสคลิปกล้องหน้ารถ และลงข้อความว่า คุณคิดยังไงกับคนขับรถเมล์คันนี้ ให้สัญญาณตั้งไกลเลือกที่จะตัดเข้ามา สาย 147 เลขข้างรถ 147-28 ของวันที่ 29 มีนาคม 2564 เวลา 20.18 น.
เวลา 16.00 น. วันที่ 30 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของโพสที่โพสคลิปและข้อความดังกล่าว ทราบว่า ชื่อนาย อรรถกร อายุ 29 ปี เป็นอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จุดตลาดพลู และเป็นคนขับรถนำผู้ป่วยส่งในวันนั้น บนถนนกัลปพฤกษ์ มุ่งหน้าถนนกาญจนา เพื่อไปโรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ แล้วได้เกิดมีรถประจำทางสาย 147 อยู่ทางช่องเลนขวาสุดกำลังตัดเข้าเลนซ้ายสุดเพื่อเข้าปั๊ม ทำให้ดูเหมือนตัดหน้ารถฉุกเฉิน ตามคลิปจากกล้องหน้ารถที่บันทึกไว้
นาย อรรถกร อายุ 29 ปี เป็นอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจุดตลาดพลู ได้บอกเล่าว่า วันเกิดเหตุประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง ตนได้รับแจ้งมีผู้ป่วยขอความช่วยเหลือ ที่บางแวก ตนจึงนำส่งออกไปรับจากที่บ้านแถวบางแวกไปส่ง รพ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ช่วงเวลานั้น ถนนเพชรเกษม จราจรหนาแน่นมาก ตนจึงเลี่ยงใช้ถนนกัลปพฤกษ์ ออกเส้นกาญจนา แต่ระหว่างทางได้มีรถเมล์สาย 147 ตัดหน้ารถของตน ซึ่งตนได้เปิดทั้งไฟ และเสียงฉุกเฉินขอทาง เพื่อให้ทราบว่ามีผู้ป่วยอยู่ในรถ แต่รถเมล์คันดังกล่าวก็ยังเลี้ยวรถตัดหน้ารถของตนเพื่อจะเข้าปั๊มน้ำมัน ซึ่งจุดตรงนั้น มันเป็นเส้นทึบ เลี้ยวตัดถนนมาก็ผิดอยู่แล้ว แต่ถึงยังไง ถ้าเป็นเส้นประ จะมาเลี้ยวตัดจากเลนขวาเข้าเลนซ้ายแบบนี้ก็ไม่ถูกต้อง
มีรถฉุกเฉินมาก็ต้องให้รถฉุกเฉินผ่านไปก่อน ไม่ใช่ตัดหน้าไปแบบนี้ แต่ตนเห็นแบบนั่นแล้วตนก็ชะลอรถ คนในรถก็ตกใจ เพราะมันอันตรายมาก ก็อยากฝากไปถึงคนใช้รถใช้ถนนให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง ถ้าเกิดได้ยินเสียงรถฉุกเฉินมา รบกวนขอให้ช่วยหลีกทางหรือหลบซ้ายนิด ขวาหน่อย เพื่อให้รถฉุกเฉินไปก่อนได้ เพื่อให้ผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บที่อยู่ในรถถึงมือหมอได้อย่างปลอดภัยเป็นพอ
ส่วนทางพนักงานขับรถประจำทางสาย147-28 ในคืนนั้น ชื่อนาย กว้าง อายุ 70 ปี ได้ยกมือไหว้และกล่าวผ่านทางผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว ตอนนั้นตนจะเข้าไปเติมแก๊สในปั๊ม ตนได้ยินเสียงรถฉุกเฉินแล้ว แต่ตนคิดว่าคงอีกไกล เลยตัดถนนเข้าไป ไม่คิดว่ารถฉุกเฉินจะมาใกล้แล้ว ตนก็ขอโทษคนป่วยและญาติคนป่วยที่อยู่ในรถฉุกเฉินในวันนั้นด้วย และขอโทษคนขับรถฉุกเฉินด้วย ตนไม่ได้ตั้งใจหรือเจตนาที่จะขัดขวางรถฉุกเฉินเลย
ทางคุณ นิธิตา อายุ 30 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ของ บริษัทผู้รับสัมปทาน กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลดังกล่าวมาว่ามีเหตุพนักงานกำลังจะขับรถเข้าปั้มก๊าซ แล้วภาพดังกล่าวเหมือนจะไปตัดหน้ารถฉุกเฉิน ทางเราก็ได้เรียกพนักงานคนดังกล่าวขึ้นมาสอบถามถึงข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนทางพนักงานไม่มีเจตนาในการขับรถปาดหน้าของรถกู้ภัยคันดังกล่าวจริงๆ ส่วนทั้งนี้ก็ได้ว่ากล่าวตักเตือนพนักงานขับรถไปแล้ว และจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ส่วนทางบริษัท ต้องกราบขอโทษคนป่วย และญาติของผู้ป่วย รวมทั้งกู้ภัย และต่อสังคมด้วย คือทางพนักงานไม่ได้มีเจตนาจริงๆ ครั้งนี้ขอให้สังคมให้อภัยในความผิดพลาดด้วย แล้วทางเราจะเน้นย้ำให้พนักงานทุกคนมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนให้มากกว่านี้
ณัชพล แซ่โซ / โชติกา ม่วงใจรักษ์ ผู้สื่อข่าวเรื่องจริงผ่านเลนส์
Leave a Reply