จับกุมผู้ต้องหา “คดีร่วมกันชิงทรัพย์ฯ”

กองบัญชาการตำรวจนครบาลรายงานผลการจับกุมผู้ต้องหา “คดีร่วมกันชิงทรัพย์ฯ”
ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในปัจจุบันปัญหาอาชญากรรม มีผลกระทบต่อความสุขของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นถือว่าเป็นปัญหาสำคัญของชาติที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง จึงมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตรา ป้องกันและปราบปราม อาชญากรรมที่เกิดขึ้นกับประชาชนในช่วงสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-๑๙ ระลอกใหม่ ซึ่งอาจทำให้มีกลุ่มมิจฉาชีพ ออกมาสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น., พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร จตร.(สบ.๘) ปฏิบัติราชการ บช.น., พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง รอง ผบช.น. เป็นผู้ควบคุมสั่งการ
กองบังคับการตำรวจนครบาล ๓ นำโดย พล.ต.ต.อรรถวิทย์ สายสืบ ผบก.น.๓ พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ, พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา รอง ผบก.น.๓, พ.ต.อ.สุรพล ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี , พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สส.บก.น.๓ , พ.ต.ท.ธนาวินท์ กาญจนวิภาส รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี , พ.ต.ท.สรายุทธ์ จิตบุญ , พ.ต.ต.ถนัด บัวโสม สว.สส.สน.มีนบุรี
ร่วมกันจับกุม
๑. นายปรัชญา ดิษฐจู อายุ 20 ปี ที่อยู่ ๒๑/๑ ซอยหทัยราษฎร์ ๒๕ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพ (ตามหมายจับศาลมีนบุรีที่ จ.320/2564 ลง 20 เมษายน 2564)
๒. นายชานนท์ สรเพ็ชร อายุ ๒๐ ปี ที่อยู่ ๔/๑ หมู่ที่ ๓ ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ (ตามหมายจับศาลมีนบุรีที่ จ.321/2564 ลง 20 เมษายน 2564)
พร้อมด้วยของกลาง
๑.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีเทา-ดำ คันทะเบียน ๒ ขก-๖๑๖๒ กทม.
2.อาวุธมีด ความยาวประมาณ ๑๕ นิ้ว /ที่ใช้ในการก่อเหตุ
๓.เสื้อแขนยาวสีเทา, กางเกงขายาวสีน้ำตาล และรองเท้ารุ่นคอนเวิส สีแดง
๔.เงินสด จำนวน 7,750 บาท และบุหรี่ จำนวน 18 ซอง / ที่ได้จากการก่อเหตุ
สถานที่เกิดเหตุ ร้านเทสโก้โลตัส เอ็กซ์เพรส (สาขา ๒๕๔๓) ซอยสามวา ๗ ถนนสามวา แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพ
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ” ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธฯ ”

พฤติการณ์การจับกุม
เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๔ เวลาประมาณ ๐๐.๕๐ น. ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายจำนวน ๒ คน ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน ที่บริเวณร้านเทสโก้โลตัส เอ็กซ์เพลส (สาขา ๒๕๔๓) ซอยสามวา ๗ ถนนสามวา แขวง/เขตมีนบุรี กรุงเทพ โดยได้ทรัพย์สินไปจำนวน๒รายการได้แก่เงินสดจำนวน ๑๗,๖๗๕ บาท และบุหรี่ จำนวน ๒๒ ซอง จากนั้นได้หลบหนีไปทางถนนสามวา มุ่งหน้าไปทางลัดหลังวัดบัวแก้ว ถนนนิมิตใหม่ ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ได้ทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ,สอบปากคำพนักงาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน จนทราบตำหนิรูปพรรณของคนร้ายที่มา ก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายที่๑ ได้สวมเสื้อคลุมสีส้ม สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีดำ-น้ำเงินเหลือง มีลักษณะรูปร่างอ้วน และคนร้ายที่ ๒ ได้สวมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงขายาวสีน้ำตาล สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีดำแดง
มีลักษณะรูปร่างผอม-สูง โดยคนร้ายได้ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีเทา-ดำ ขับขี่มาก่อเหตุ หลังจากนั้นได้ทำการสืบสวนโดยใช้กล้องวงจรปิดที่ได้รับจากโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทำการติดตั้งเพิ่มเติมในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งทำให้ทราบเส้นทางที่คนร้ายใช้ก่อเหตุและเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี
จากการสืบสวนทราบว่า คนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุคือ นายปรัชญา ดิษฐจู อายุ 2๐ ปี และ นายชานนท์ สรเพ็ชร อายุ ๒๐ ปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญามีนบุรี ต่อมา เมื่อวันที่ 19 เมษายน ๒๕๖๔ เวลา 15.๐๐ น. ได้พบตัว นายปรัชญาฯ ได้ที่บริเวณบ้านเลขที่ ๒๑/๑ ซอยหทัยราษฎร์ ๒๕ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีเทา-ดำ คันทะเบียน ๒ ขก-๖๑๖๒ กทม. ที่ใช้ในการก่อเหตุ พร้อมกับเงินสดจำนวน ๒,๕๖๐ บาท และบุหรี่ จำนวน ๑๘ ซอง ที่ได้มาจากการก่อเหตุ จากสืบสวนขยายผล ทราบว่า นายชานนท์ฯ คนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุ ได้หลบหนีไปอยู่ที่หอพัก CBS ห้อง ๔๐๑ ชั้น ๔ ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยหทัยราษฎร์ ๑ จึงเดินทางไปตรวจสอบและพบตัวในเวลาต่อมา พร้อมของกลาง เงินสด จำนวน ๕,๑๙๐ บาท และชุดที่คนร้ายใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ ซึ่งต่อมา วันที่ 20 เมษายน 2564 เวลา 02.00 น. ศาลอาญามีนบุรีอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสอง เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไว้ดำเนินคดีดังกล่าว
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาถึงมูลเหตุจูงใจที่มาก่อเหตุ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ต้องการนำเงินไปใช้ในการจ่ายค่าเช่าห้องพัก เนื่องจากช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีเป็นเหตุให้มีเงินไม่เพียงพอสำหรับการใช้จ่าย อีกทั้งผู้ต้องหาทั้งสองยังมีประวัติคดีทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกาย ในส่วนของอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังอยู่ระหว่างการขยายผล
จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนประชาชน ร้านค้า ร้านทอง ให้ระมัดระวังทรัพย์สิน เพื่อป้องกันเหตุ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ โดยแนะนำให้สถานประกอบการต่างๆ ที่ล่อแหลมต่อการเกิดเหตุ ให้ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเหตุร้ายและสัญญาณเตือนภัย เช่น กล้องวงจรปิด เป็นต้น
เพื่อให้การดำเนินการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ทีมงานประชาสัมพันธ์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link