ชุดเหยี่ยวดงผนึกกำลังหน่วยพญาเสือ ตรวจยึดจับกุมผู้ลักลอบนำซากสัตว์ป่าคุ้มครองหลายชนิด จากประเทศเพื่อนบ้านมาวางขายในตลาด จังหวัดหนองบัวลำภู

จากกรณีพลเมืองดีแจ้งเข้ามาว่ามีการลักลอบค้าขายเนื้อซากสัตว์ป่าคุ้มครองหลายชนิด ได้แก่ ซากบ่าง ตะกวด เหี้ย และงูสิง เป็นต้น บริเวณตลาดบ้านห้วยเดื่อ อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่มีการทำกันเป็นขบวนการ และทำมาเป็นเวลานาน โดยซากสัตว์ป่าดังกล่าวถูกลักลอบข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเป็นส่วนใหญ่

วันนี้ (9 พ.ค. 64) เวลา 12.00 น. คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (หน่วยพญาเสือ) ส่วนยุทธการด้านการป้องกันและปราบปราม สำนักงานป้องกันและปราบปรามสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ ๒ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) สำนักงานต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายของประเทศไทย สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) ปลัดอำเภอเมืองหนองบัวลำภู สถานีตำรวจภูธรเมืองหนองบัวลำภู ได้ร่วมกันวางแผนจับกุม และได้สืบทราบว่าจะมีการซื้อขายเนื้อ ซากสัตว์ป่า ด้วยกันบริเวณ 2 จุด คณะเจ้าหน้าที่จึงได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ทีม เข้าตรวจค้น

จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณตลาดบ้านห้วยเดื่อ ตำบลโนนทัน อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู มีร้านขายเนื้อสัตว์ป่า จำนวน 1 แผง พร้อมผู้ต้องหา จำนวน 2 คน คือ นางสาวเบ็ญจมาท (ขอสงวนนามสกุล) และนางปวรา (ขอสงวนนามสกุล) โดยมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ประกอบด้วย ตะกวด น้ำหนัก 2 กิโลกรัม กระรอกบินเล็กแก้มขาว จำนวน 3 ตัว (รวม 2 ชนิด 3 ตัว 1 ซาก น้ำหนัก 2 กิโลกรัม) และอุปกรณ์การกระทำผิด รถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน

ต่อมาตรวจสอบที่บริเวณตลาดศรีสุพรรณ ตำบลโนนทัน อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู พบร้านขายเนื้อสัตว์ป่า จำนวน 1 แผง พร้อมผู้ต้องหา จำนวน 1 คน คือ นางสาวปรารถนา (ขอสงวนนามสกุล) โดยพบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ประกอบด้วย ชะมดแพงหางปล้อง จำนวน 1 ซาก ตะกวด 2 ซาก กระรอกป่าไม่ทราบชนิด จำนวน 2 ซาก กระรอกบินแก้มขาว จำนวน 24 ซาก ชะมดแปลงลายจุด จำนวน 1 ซาก (รวม 5 ชนิด 30 ซาก)

ด้านนางสาวปราถนา ให้ถ้อยคำว่าซื้อสินค้ามาจากคนในหมู่บ้านเดียวกันและทราบว่าบุคคลดังกล่าวซื้อซากสัตว์ป่ามาจากประเทศสาธารณประชาธิปไตยประชาชนลาวอีกต่อหนึ่ง ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว เห็นว่าพฤติการณ์ทั้ง 2 คดีดังกล่าว ของ 1.นางสาวเบ็ญจมาท (ขอสงวนนามสกุล) 2.นางปวรา (ขอสงวนนามสกุล) และ 3. นางสาวปรารถนา (ขอสงวนนามสกุล)

กรณีครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่มีหลักฐานการได้มาของทางราชการ และนำมาประกาศหรือโฆษณา เพื่อการค้า มีความผิดมาตรา 17 ฐาน “มีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” มีอัตราโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 29 ฐาน “ค้าซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” มีอัตราโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ประกอบมาตรา 112 และ มาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 จึงได้ควบคุมตัวบุคคลทั้ง 3 คนดังกล่าวข้างต้น เป็นผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครองของกลางดังกล่าว พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับซากสัตว์ป่าคุ้มครองของกลาง เป็นของเน่าเสียง่าย ไม่สามารถที่จะเก็บรักษาไว้นานได้ จึงขออนุมัติพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองหนองบัวลำภู ดำเนินการทำลายโดยวิธีการเผาทำลาย ณ บริเวณที่ทำการสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)และเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อบางส่วนนำส่งศูนย์ปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อตรวจพิสูจน์ต่อไป