ลูกจ้างลอกท่อ กทม.หึงโหดเมียสาวชักปืนปากกาซัลโวศีรษะดับคาบ้านพัก

เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 13 พ.ค. ร.ต.อ.จิรภัทร แปงใจ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุยิงกันตายในบ้านเลขที่ 17/12 ชุมชนวัดไทร ถนนเอกชัย ซอย 27 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.วิศิษฐ์ สังขนันท์ ผกก.สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้สูง 2 ชั้น จากการตรวจสอบบริเวณชั้นล่างซึ่งเป็นจุดจอดรถมอเตอร์ไซค์ พบศพ น.ส.ชรินทร์ทร หรือแอม บุนนาค อายุ 25 ปี ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่หน้าผากซีกขวา ทะลุท้ายทอย 1 นัด สวมเสื้อยืดสีดำคลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวลายสก็อตสีน้ำตาล นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น โดยศพผู้ตายยังถูกทับด้วย รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูเมอร์เอ็กซ์ สีฟ้า ทะเบียน 5 กน 6558 กรุงเทพมหานคร จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นางสมคิด ม่วงเกตุมา อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านซึ่งเป็นแม่สามีผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้าน พอทราบข่าวก็รีบเดินทางมาทันที โดยก่อนหน้านี้ผู้ตายคบหาอยู่กินกับ นายวัชรินทร์ หรือเอ็กซ์ สีมงคลรัตน์ อายุ 40 ปี ลูกชายตนซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างลอกท่อของสำนักงานเขตภาษีเจริญ มานานสิบกว่าปี ทั้งคู่มีลูกชายวัย 10 ขวบ และ ลูกสาววัย 2 ขวบ ด้วยกันรวม 2 คน กระทั่งราว 2 เดือนที่ผ่านมา ทะเลาะเบาะเเว้งและตกลงแยกทางกัน โดยผู้ตายก็ตัดสินใจไปคบหาชายคนใหม่ แต่ยังมารับมาส่งแวะเวียนมาหา ลูกๆ ทั้ง 2 คน เกือบทุกวัน วันนี้คาดว่า ผู้ตายก็ขับขี่ รถ จยย.มาหาลูกตามปกติ

“ตนไม่แน่ใจว่าใครเป็นผู้ลงมือก่อเหตุเพราะระหว่างที่ผู้ตายเดินทางมาที่บ้าน มีแค่หลานสาววัย 2 ขวบ ที่ผู้ตายต้องการมาหาเท่านั้น ส่วนหลานชาย วัย 10 ขวบ ผู้ตายเอาไปพักด้วยที่บ้านซอยเอกชัย 41 อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ยินลูกชายตนโทรศัพท์ไปทะเลาะกับผู้ตาย เรื่องที่เจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ทวงค่างวดรถยนต์ที่ทั้งคู่ ซื้อร่วมกันตอนยังไม่เเยกทาง หากจะเป็นลูกชายตนลงมือ ก็อาจเป็นเพราะเรื่องนี้ หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะเรื่องความหึงหวง เนื่องจากลูกชายตนค่อนข้างเป็นคนโมโหร้าย” นางสมคิด กล่าว

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน ฝ่ายสืบสวน สน.บางขุนเทียน ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายวัชรินทร์ เอาไว้ได้ไม่ไกลจากบ้านที่เกิดเหตุ เบื้องต้นจึงเชิญตัวมาสอบสวนที่โรงพัก แต่ยังให้การปฏิเสธ อ้างว่า ก่อนเกิดเหตุเดินทางไปทำงาน ไม่ได้อยู่ที่บ้านพัก อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมมีข้อมูลว่า ก่อนหน้าที่จะถูกรวบตัว นายวัชรินทร์ ได้นำเสื้อผ้าไปโยนทิ้งคลองใกล้ชุมชนวัดไทร และยังเคยซื้อหาปืนปากกาไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 พร้อมลูกกระสุน จำนวน 1 กล่อง จากพรรคพวกมาในราคา 6,500 บาท มาเก็บเอาไว้โดยหลังจากนี้จะเดินหน้าหาเสื้อผ้า และอาวุธปืนของกลางดังกล่าวให้พบ ก่อนประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเขม่าดินปืนตามร่างกายของ นายวัชรินทร์ ต่อไป.