ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี สั่งคุมเข้มยกระดับความปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่เกาะพะงัน หลัง สถานการณ์ covid-19 ยังคงระบาดต่อเนื่องพร้อมขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่อำเภอเกาะพะงันออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 21:00 น ถึงเวลา 04.00 นในวันรุ่งขึ้น

ผู้ว่าสุราษฎร์ธานี สั่งคุมเข้มยกระดับความปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่เกาะพะงันหลังสถานการณ์โควิด 19 ยังคงระบาดต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน งดออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ถึงเวลา 04.00 น. ในวันรุ่งขึ้น โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 2564 ระบุ การออกมาตรการดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากโครงการ Samui Plus Model หรือโครงการ Phuket Sand Box นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 5229/2564 ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2564 เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ฉบับที่ 59) เฉพาะพื้นที่อำเภอเกาะสมุย และ อำเภอเกาะพะงัน กำหนดมาตรการควบคุมทั่วไป มาตรการควบคุมผู้เดินทางเข้าพื้นที่อำเภอเกาะสมุย และ อำเภอเกาะพะงัน มาตรการควบคุมสำหรับสถานที่ กิจการ กิจกรรม และการควบคุมกิจกรรมทางสังคม ในการสั่งปิด จำกัด หรือห้ามดำเนินการของสถานที่ กิจการ กิจกรรม ไปแล้วนั้น เพื่อให้การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ในพื้นที่ อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในปัจจุบัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงออกมาตรการป้องกันโควิด 19 เฉพาะอำเภอเกาะพะงัน โดยขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่อำเภอเกาะพะงันงด ออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ถึงเวลา 04.00 น. ในวันรุ่งขึ้น โดยให้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2564 เว้นแต่ มีความจำเป็นหรือเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ตามประกาศของ ศบค. ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 20 คน เว้นแต่ กรณีได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่ได้ดำเนินการมาแล้วบางส่วนหากไม่ทำต่อเนื่องจะได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ต้องแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคพื้นที่เข้ามาดำเนินการภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ เพื่อการควบคุมโรค ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อตามที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ยกเว้น การจัดกิจกรรม ประชุม อบรม สัมมนา ให้ถือปฏิบัติตามประกาศของคณะกรรม ศบค.จังหวัดโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ในส่วนของการขนส่งสาธารณะ ได้แก่ รถโดยสาร รถขนส่งผู้โดยสารสาธารณะ เรือโดยสาร ให้จำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุผู้โดยสารของยานพาหนะแต่ละประเภท รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่าง และการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
สำหรับมาตรการควบคุมผู้เดินทางเข้าพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระบุว่า จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ ศบค.ระบุ โดยผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จำนวน 29 จังหวัด จะต้องถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฯ ดังนี้ ต้องแสดงเอกสารรับรองความจำเป็นในการเดินทางออกนอกพื้นที่ ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ซึ่งออกให้โดยจังหวัดต้นทาง ต้องสแกน QR Code ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะพะงัน (ศปก.อ.เกาะพะงัน) กำหนด โดยต้องให้ข้อมูลที่เป็นจริง ถูกต้อง และห้ามปกปิดข้อมูล เพื่อเป็นข้อมูลในการสอบสวนโรคและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคฯ โดยผู้เดินทางจะต้องทำการสแกน QR Code ขณะซื้อบัตรโดยสาร ณ ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ อำเภอดอนสัก ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ อำเภอเกาะสมุย ท่าเรือลมพระยา อำเภอเกาะ สมุย ท่าเรือนอนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ท่าเรือนอนจังหวัดชุมพร หรือท่าเรือลมพระยา จังหวัดชุมพร เพื่อนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรอง พร้อมทั้งต้องแสดงให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคที่ประจำจุดตรวจหรือจุดคัดกรอง และจะต้องมีหลักฐานแสดงว่าตนเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด ครบตามกำหนด
หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรคโควิด – 19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน และต้องมีหลักฐานการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ด้วยวิธีการ RT- PCR หรือ Antigen Rapid Test ไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยผู้เดินทางต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมด แล้วให้นำหลักฐานการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 มาแสดงต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคที่ประจำจุดตรวจหรือ จุดคัดกรองหากมีหลักฐานครบให้ใช้มาตรการ “แยกตัว” หากขาด หลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใด ให้ใช้มาตรการ “กักกันตัว” ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน หรือจนครบ 14 วัน แล้วแต่กรณี ณ สถานที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะพะงันกำหนด

สำหรับกรณีต่างชาติ หรือ ต่างด้าว ผู้มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ประจำ ในพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน และมีประวัติฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ตามข้อกำหนด โดยอนุญาตให้เดินทางออก นอกพื้นที่ได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง และต้องมีหนังสือรับรองการออกนอกพื้นที่อำเภอเกาะพะงันเพื่อแสดงแก่เจ้าหน้าที่เมื่อเดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่ หากเดินทางออกนอกพื้นที่เกิน 24 ชั่วโมง ต้องยื่นหลักฐานผลตรวจหาเชื้อ โควิด – 19 ด้วยวิธี RT- PCR หรือด้วยวิธี Antigen Rapid Test ไม่เกิน 72 ชั่วโมง จากโรงพยาบาลของรัฐ หรือโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หรือผู้ให้บริการภาคเอกชน หากไม่มีหลักฐานผลการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ต้องรับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 จากโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชน หรือผู้ให้บริการภาคเอกชน ตามที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำจุดคัดกรอง เห็นควรหรือสั่งการ โดยผู้เดินทางต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมด ยกเว้น กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน มีใบนัดของแพทย์ หรือต่ออายุหนังสือเดินทางหรือ กรณีจำเป็นอื่น ๆ ให้อยู่ในดุลยพินิจของนายอำเภอเกาะพะงัน หรือบุคคลที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ เกาะพะงัน มอบหมายการขอหนังสือรับรองความจำเป็นในการเดินทางออกนอกพื้นที่ ให้ยื่นขอได้ณ ที่ว่าการอำเภอเกาะพะงัน และที่ว่าการอำเภอเกาะพะงันส่วนหน้า (เกาะเต่า) ภายในวัน เวลาราชการหรือที่จุดคัดกรองท่าเรือ โดยต้องมายื่นขอด้วยตนเองก่อนเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับการออกมาตรการดังกล่าวจะไม่มีผลบำคัลใช่แก่การเดินทางระหว่างอำเภอเกาะสมุยและอำเภอเกาะพะงัน หรือการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากโครงการ Samui Plus Model หรือโครงการPhuket Sand Box ซึ่งเดินทางโดยทางเรือโดยสารหรืออื่น ๆ มายังพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานีหรือโครงการอื่นที่ราชการอนุมัติให้เชื่อมต่อการเปิดพื้นที่นำร่องฯ โดยให้ปฏิบัติตามคำสั่งและมาตรการที่ได้กำหนดไว้เป็นการเฉพาะ.

หัวหน้า​ศูนย์ข่าว​ เรื่อง​จริง​ผ่าน​เลนส์​ สุราษฎร์​ธานี​ / รายงาน

คุณ​ณรงค์​ชัย​ ช​ลา​ลักษ์

คุณ​สุพัตรา​ เลี่ยม​รัตน์

คุณ​สุทธิ​ชาติ​ รัช​ชะ

คุณ​วิทยา​ แซ่หม่ง

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link