ภาพวงจรปิด สาวทอมกับแฟนสาวขี่จักรยานยนต์ถูกสายเคเบิ้ล เกี่ยวคอบาดเจ็บ ถนนบางบอน 5

วันที่ 24 กันยายน 2564 เวลา 16.00 น.

สืบเนื่องจากมีผู้ใช้เฟสบุ๊คใช้ชื่อว่า Numpunch Ntk ได้ลงเรื่องราวเตือนภัยที่ได้ประสบพบเจอกับตนเองและแฟนของตนจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดมีใจความว่า เป็นแบบนี้ใครจะรับผิดชอบค่ะ เหตุเกิดที่บางบอน 5 ซอย 3 ตรงข้ามอู่ตงเจริญยนต์ หน้าบริษัทสุภาภรณ์พลาสติก เวลาประมาณ 20.39 น. มีสายไฟฟ้าแบบสายใยแก้วที่ขาดอยู่เราขับมาทางตรงเพื่อกลับบ้านแล้วแฟนเราโดนสายไฟคนแรกที่คอแล้วตวัดมาโดนเราแล้วรถก็ล้มเกือบชนเสาไฟฟ้าใครผ่านไปทางนั้นระวังกันด้วยนะคะ แล้วได้ถ่ายภาพบาดแผลของตนเอง และแฟน แล้วยังมีภาพบรรยากาศของภายในที่เกิดเหตุ และที่ สน.บางบอน ที่ตนเองและแฟน ไปแจ้งความเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีความทางด้านกฎหมาย ส่วนเบื้องต้นตอนนี้ทั้งคู่ยังคงนอนพักรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล สหวิทยาการมะลิ อาการของทั้งคู่ตอนนี้ปลอดภัยดีแล้วและทั้งคู่ก็ยินดีที่อนุญาตให้ทีมงานผู้สื่อข่าวเข้าไปเยี่ยมและสัมภาษณ์ได้

วันนี้ทีมงานผู้สื่อข่าวจึงเข้าเยี่ยมทั้งสองคนและได้สัมภาษณ์ถึงตอนเกิดเหตุว่าเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไรจึงได้ความว่า

https://youtu.be/AXOBej8JqM0

น.ส. พรรณธิดา เลิศอารี อายุ 27 ปี คนขับขี่รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุ บอกเล่าว่า ตนกับแฟนขี่รถกลับจากตลาด เพื่อกลับเข้าบ้านพัก มาถึงจุดเกิดเหตุก็มีสายไฟพาดลงมา ซึ่งตอนนั้น ตนก็มองไม่เห็น สายไฟพาดมาที่คอตนและตวัดไปพันกับแฟนตนด้วย ตอนนั้น รถตนก็เสียหลักเกือบจะชนเข้ากับเสาไฟฟ้า แต่ดีที่แฟนตนและตนยังมีสติ บังคับรถให้จอดได้ ตนก็คิดว่า มีใครมาดักเอาลวดสลิงมาขวางไว้หรือป่าว ตนจึงเอามือนึงจับที่คอด้วยความเจ็บอีกมือก็จับแฮนด์รถเพื่อจะไปจอดดูบาดแผลกันที่สว่างกว่าตรงนั้น ก็ไปจอดที่ ร้าน 7-11 ไปเจอผู้ชายคนนึงยืนอยู่ เค้าจึง
บอกให้ตนแจ้งตำรวจก่อน แต่ตนก็โทรบอกทางบ้านแฟน และบ้านตนก่อนที่จะโทรแจ้งตำรวจ พอตำรวจและกู้ภัยมาก็พาไปดูที่เกิดเหตุก่อนจะให้กู้ภัยพามาโรงพยาบาล แล้วพอมาถึงโรงพยาบาล ทางหมอก็ให้เอ๊กซเรย์ดูบาดแผลว่าลึกแค่ไหน เพราะใกล้กับหลอดลมมาก หนังที่คอมีรอยถลอก เมื่อคืนก็ปวดแผลมาก ปวดตุ๊บๆตลอดรอบคอเลย
ส่วนทาง น.ส.ณัฐธิกานต์ ณรงค์วัฒนา (พันซ์) อายุ 29 ปี บอกเล่าว่า ตนกับแฟนไปตลาดมากำลังจะกลับบ้าน มาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆ สายไฟก็ตวัดมารัดคอแฟนกับตน จนเกือบจะไปชนกับเสาไฟฟ้า ดีที่ตนมีสติ เรียกชื่อแฟน มุกๆๆ จึงหักหัวรถคืนมาชนกับขอบฟุตบาทแทน ตอนนั้นคิดว่าไม่รอดแน่ ต้องตายแน่ ในใจก็นึกถึงเรื่องที่ว่า มีคนร้ายมาเอาลวดสลิงขึงเพื่อชิงทรัพย์หรืออะไร พอตั้งสติกันได้ก็ไปที่สว่างเพื่อดูบาดแผลและโทรหาที่บ้าน และโทรแจ้งตำรวจกัน จนได้มาดูที่เกิดเหตุและมาโรงพยาบาล เมื่อตรวจสอบดูแล้ว น่าจะเป็นสายอินเตอร์เนทของ ทีโอที แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อกลับมาเลย

ทั้งนี้เบื้องต้นทางทีมงานผู้สื่อข่าวได้ติดตามลงพื้นที่ตรวจสอบจากสถานที่เกิดเหตุถนนบางบอน 5 ซอยที่ 3 แล้วเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็พบกับสายไฟต้นเหตุดังกล่าวห้อยลงมาจากบริเวณเสาไฟดังกล่าว ที่ตั้งใกล้กับหน้าบริษัท สุภาภรณ์พลาสติก ซึ่งเป็นสายไฟที่ขาดห้อยลงมาแล้วมีความยาวมาก จนถ้าขับขี่ จยย. มาด้วยความเร็วและถ้าเป็นช่วงกลางคืนก็จะมองไม่เห็นอย่างแน่นอน แล้วถ้าหากไม่มีการแก้ไขอย่างเร่งด่วนก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกอย่างแน่นอน จึงอยากจะฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยลงพื้นที่แก้ไขเป็นการเร่งด่วนด้วยเพราะชาวบ้านแถวนี้เขากลัวว่าลูกหลานของเขาหรือผู้ที่ใช้รถใช้ถนนที่ผ่านไปมาเส้นทางนี้จะได้รับอันตรายถึงชีวิตก็เป็นได้ถ้าไม่มีการแก้ไข แล้วทั้งนี้ภายในบริเวณจุดเกิดเหตุทางทีมงานยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนอีกด้วย แล้วเมื่อเปิดดูก็พบว่าเหตุทั้งหมดเกิดขึ้นจากสายไฟฟ้าเส้นดังกล่าวจริงๆโดยที่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไม่ได้ไปเฉี่ยวชนใคร ทั้งสิ้นแต่กำลังมุ่งหน้าจะกลับบ้านตามคำบอกเล่าของผู้เสียหายและพอมาถึงจุดเกิดเหตุดังกล่าวสายไฟฟ้าก็ไปพันคอผู้ขับขี่ทันที แล้วส่วนปลายสายก็ไปฟาดเข้าที่คอของแฟนสาวที่ซ้อนรถมา จนเป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ล้มลงอย่างแรงแล้วเกือบจะไถลไปชนกับเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าว จนทำให้ได้รับบาดเจ็บจนถึงต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลดังกล่าว