การปราบปรามขบวนการโจรกรรมรถข้ามแดน

ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้มีนโยบายให้มีการบูรณาการ ระหว่างพลเรือน ตำรวจ ทหาร และทุกภาคส่วน ในการดำเนินการ สกัดกั้น ปราบปราม และจับกุมขบวนการโจรกรรมรถข้ามแดนอย่างจริงจัง เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติ นั้น มีการดำเนินการจับกุมที่สำคัญ ดังนี้
เหตุการณ์ที่ 1 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจากกองร้อยทหารราบที่ 1413 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ กำลังลาดตระเวนตรวจโดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะ เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน มาถึงช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ บ้านทหารผ่านศึก ตำบลรวมไทยพัฒนา อำเภอพบพระ จังหวัดตาก นั้น ได้พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น ดีแม็ก วีครอส สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถขับขี่สวนทางมา จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถและทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ผู้ขับขี่และผู้ที่โดยสารมากับรถ รวมทั้งสิ้น 3 คน ไม่มีเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับตัวรถ และไม่สามารถแสดงหลักฐานการครอบครอง หรือกรรมสิทธิ์ในรถคันดังกล่าวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นรถที่ได้มาจากวิธีการอันมิชอบด้วยกฎหมาย และกำลังจะถูกนำข้ามแดนไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้ตรวจยึดรถคันดังกล่าว พร้อมทั้งควบคุมตัวทั้ง 3 คน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เหตุการณ์ที่ 2 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 23.45 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองร้อยทหารม้าที่ 1 กองบังคับการควบคุมที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ กำลังลาดตระเวนตรวจ โดยใช้รถยนต์เป็นพาหนะ เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย มาใกล้แนวชายแดนในพื้นที่ บ้านม้งแปดหลัง ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย นั้น ได้พบรถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อ Ford รุ่น Everest สีขาว หมายเลขทะเบียนกรุงเทพมหานคร แล่นอยู่ทางด้านหน้าทิศทางมุ่งไปชายแดน มีลักษณะพิรุธ จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อจะขอตรวจค้น แต่เมื่อคนขับรถคันดังกล่าวรู้ว่ารถที่ตามมาเป็นรถของเจ้าหน้าที่ทหาร จึงจอดรถข้างทางแล้วรีบวิ่งหลบหนี อาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่สามารถหลบหนีไปได้ จากการตรวจที่เกิดเหตุรถยนต์คันดังกล่าว ไม่มีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นรถที่ได้มาจากวิธีการอันมิชอบด้วยกฎหมายและกำลังจะถูกนำข้ามแดนไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จึงตรวจยึดรถคันดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือมีเบาะแสข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการโจรกรรมรถข้ามแดน ขอความกรุณาได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติในการปราบปรามและจับกุม อย่างเป็นรูปธรรมตามกฎหมาย อีกทั้งหากพี่น้องประชาชนมีความประสงค์จะส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับขบานการโจรกรรมรถข้ามแดน โดยตรง ให้กับ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 สามารถส่งข้อมูลผ่านระบบ Applications Line ชื่อ “สายตรงแม่ทัพภาคที่ 3” ID Line : ISOC3 เพื่อรับทราบข้อมูลและนำไปสู่การปฏิบัติตามกรอบของกฎหมาย สร้างความมั่นคงให้สังคมไทยสืบไป
คณะบรรณาธิการข่าว กองทัพภาคที่ 3
4 พฤศจิกายน 2564