แจ้งจับ อดีต พนง.สาว บริษัทค้าออนไลน์ สวมรอยข้อมูลหลังบ้าน โกงสนั่น ต่างกรรม-ต่างวาระ 300 ครั้ง

นักธุรกิจออนไลน์ฉายา ‘เคแมน เด็กช่างร้อยล้าน’ เดินหน้าฟ้อง อดีตพนักงาน สวมรอย รับสั่ง-ขายสินค้าออนไลน์ ไม่ตรงปก จนทำให้มีลูกค้าได้รับความเดือดร้อนและยังกระทบมาถึงบริษัทจนเกิดความเข้าใจผิด ทนายความชื่อดังแจ้งดำเนินคดีแยกต่างกรรมต่างวาระ ไมต่ำกว่า 300 ครั้ง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 พ.ย.64 นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง เดินทางมาพร้อม นายสิรภพ แจ้งชูช่วย หรือ “เคแมน เด็กช่างร้อยล้าน” นักธุรกิจจำหน่ายสินค้าออนไลน์ เจ้าของบริษัท 888 โฮม ช็อปปิ้ง จำกัด และ เพจ “เคแมน เด็กช่างร้อยล้าน” มีผู้ติดตามกว่า 5 แสนคน นำหลักฐานเข้าพบ พ.ต.ท.มงคล พฤกษชาติ รอง ผกก.( สอบสวน ) สภ.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ แจ้งดำเนินคดี หญิงสาว อายุ 27 ปี อดีตพนักงานบริษัทระดับหัวหน้างาน ในความผิดฐาน “เข้าถึงข้อมูลของบุคคลอื่นโดยมิชอบ” ตามมาตรา7 พรบ.คอมพิวเตอร์
นายสิรภพ ให้การว่า เปิดบริษัทประกอบธุรกิจค้าขายสินค้าออนไลน์ ทุกประเภท ตั้งแต่ อาหารเสริม เครื่องแต่งกายแฟชั่น รวมถึงการจัดกิจกรรมสัมมนาต่างๆ โดยมี อดีตพนักงานสาวรายนี้ ทำหน้าที่ดูแลข้อมูลระบบออนไลน์ ตั้งแต่การทำบัญชีขายสินค้า การตอบรับลูกค้า ในนามของบริษัท กระทั่งได้รับแจ้งจากลูกค้าว่า มีการส่งสินค้าไม่ได้คุณภาพหลังสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งมีชื่อและข้อมูลตรงกับทางบริษัทดังกล่าว
เมื่อตรวจสอบพบว่า ไม่ได้มีที่มาจากทางบริษัทของตน แต่กลับมีการทำปลอมขึ้น จากบุคคลที่มีฐานข้อมูลการควบคุมระบบออนไลน์เดียวกับบริษัทของตน จึงตรวจสอบเพิ่มเติมจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ พบว่า มีการใช้แอคเคาท์เดียวกัน แล้วทำการซื้อขายสินค้าโดยตรงกับลูกค้า ส่วนสินค้าที่ส่งให้เป็นสินค้าไม่ได้มาตรฐานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบว่า ก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 200-300 ครั้ง แม้ในขณะนี้ที่นำหลักฐานเข้าแจ้งความ ผู้ก่อเหตุยังคงลงมืออยู่คาดว่าไม่รู้ตัว
ด้าน ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า การดำเนินคดีต้องแยกเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ เพราะผู้ก่อเหตุสวมรอยเป็นบริษัทและไปอ้างตัวกับลูกค้าซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบอีกส่วน ในหลายบุคคลและหลายท้องที่ ซึ่งจากหลักฐานพบว่า ผู้ก่อเหตุใช้ช่องทางในการรับผิดชอบระบบออนไลน์ของบริษัท นำข้อมูลทั้งหมดไปสร้างช่องทางออนไลน์ใหม่ ให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าเป็นบริษัทของลูกความ
ซึ่งจากคดีนี้พบว่า การลักลอบเข้าถึงข้อมูลจากบุคคลอื่น นอกจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เช่น แฮกเกอร์ ยังพบว่า มีอีกกลุ่มคือ บุคคลใกล้ชิดที่ดูแลระบบ ซึ่งเห็นได้จากกลุ่มทำธุรกิจออนไลน์ ที่มีพนักงานควบคุมระบบเป็นต้น
สำหรับอัตราโทษในคดีนี้ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท ซึ่งหากมีการดำเนินคดีต่างกรรมต่างวาระ จะต้องรับโทษตามจำนวนครั้งที่ก่อเหตุ โดย พนักงานสอบสวน ได้รับเรื่องและอยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link