กทม.แนะประชาชนสังเกตความแตกต่างอาการโควิด 19 – ไข้หวัด – ไข้เลือดออก
นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสังเกตอาการของโรคโควิด 19 ซึ่งมีอาการใกล้เคียงกับโรคไข้หวัดและโรคไข้เลือดออกว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการแพทย์ ได้สร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนสังเกตความใกล้เคียงของอาการโควิด 19 กับโรคไข้หวัด และโรคไข้เลือดออก โดยโรคไข้เลือดออกจะเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี่ 4 สายพันธุ์ คือ DENV-1 DENV-2 DENV-3 และ DENV-4 มียุงลายเป็นพาหะนำโรค อาการไข้ มักสูงลอยนาน 2 – 7 วัน อุณหภูมิมากกว่า 38.5 องศาเซลเซียส หน้าแดง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องโดยเฉพาะบริเวณใต้ชายโครงขวา บางรายอาจมีถ่ายดำ หรือถ่ายเป็นเลือด หากรุนแรงอาจเห็นจุดเลือดออกสีแดงเล็ก ๆ ตามผิวหนัง มักไม่พบอาการไอ มีน้ำมูก หายใจลำบาก หรือปอดอักเสบ ส่วนโรคโควิด 19 เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (SARS-CoV-2) สามารถแพร่จากคนสู่คนได้ทางละอองฝอย เสมหะน้ำลาย ผ่านการสัมผัสเยื่อบุตา จมูก ปาก อาการไข้ต่ำถึงสูง อุณหภูมิมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ปวดเมื่อยตามตัว เจ็บคอ ไอแห้ง หรือมีเสมหะ มีน้ำมูก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ปอดอักเสบในรายที่รุนแรง ท้องเสียในบางราย ไม่พบจุดเลือดออกตามผิวหนัง จะเห็นว่าอาการป่วยเบื้องต้นของทั้งสองโรคมีส่วนคล้ายกัน แต่หากเป็นโรคโควิด 19 นอกจากจะมีไข้ ไอแล้ว ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดเมื่อยตามตัว ร่วมกับเหนื่อยหอบ หายใจลำบากร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม สำนักการแพทย์ได้ให้ความรู้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่มารับบริการในโรงพยาบาล (รพ.) สังกัด กทม. รวมถึงประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์เพจสำนักการแพทย์ กทม.และสายด่วนสุขภาพสำนักการแพทย์ เพื่อให้คำแนะนำในการดูแลรักษาสุขภาพ ป้องกันตนเองจากโรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัด และโรคโควิด 19 พร้อมแนะนำวิธีการสังเกตและแยกอาการของโรค ได้แก่ การหลีกเลี่ยงไปในสถานที่แออัด ให้สวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันตนเองเบื้องต้น และเคร่งครัดมาตรการดูแลสุขอนามัยและความสะอาดภายในบ้านเรือนของตนเองให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ให้เป็นแหล่งหลบซ่อนของยุง เก็บขยะ สำรวจภาชนะต่าง ๆ ไม่ให้มีน้ำขัง รวมถึงชุมชนโดยรอบพื้นที่ รพ.เช่นเดียวกัน เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัด และโรคโควิด 19 หากมีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ เบื่ออาหาร ปวดท้อง ซึ่งอาจมีลักษณะคล้ายกันหลายโรค ทั้งไข้หวัด ไข้เลือดออก และโรคโควิด 19 ให้ตรวจหาเชื้อโควิดด้วยชุดตรวจ ATK รับประทานยาตามอาการ หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยโรคและรับการรักษาต่อไป
Leave a Reply