รถปิ๊กอัพเสียหลักพลิกคว่ำ ไฟลุกท่วมดับคากองเพลิง 2 ศพ ถนนพระราม 3

เมื่อเวลา 06:21 น.
วันที่ 2 กรกฎาคม 2565

ร.ต.ท.สราวุฒ สุขสวัสดิ์ รอง สว. สอบสวน สน. บางโพงพาง ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำ แล้วเกิดเพลิงลุกไหม้ จุดเกิดเหตุหน้าวัดปริวาสราชสงคราม ซอยพระรามที่ 3 ซอย 30 ถนนพระรามที่ 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญจึงเร่งเดินทางไปในจุดเกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุ เป็นถนน 4 เลน เหตุเกิดในช่องทางขวาสุด ซึ่งเป็นช่องทางเดินรถ BRT ชึ่งอยู่ติดกับแบริเออร์เพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง ในเบื้องต้น พบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชาย สภาพกระเด็นออกมานอกตัวรถแล้วถูกเพลิงลุกไหม้ เจ้าหน้าที่ใช้น้ำทำการดับ ประมาณ 40 นาที เพลิงจึงสงบ โดยรถยนต์กระบะ ที่เพลิงลุกไหม้ เป็นรถยนต์กระบะ โตโยต้า แบบมีคอกเหล็กท้ายรถ หมายเลขทะเบียน ตง8992 กรุงเทพมหานคร

หลังจากการลงพื้นที่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณสถานที่เกิดเหตุพบว่าภาพวินาทีที่เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้มาจากรถกระบะคันดังกล่าวขับขี่มาด้วยความรวดเร็วและพอมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุก็เกิดการเสียหลักล้อหน้าปีนขึ้นบนแท่นปูนที่ใช้กันขอบทางเดินรถ BRT ก็เลยทำให้เกิดพลิกตะแคงคว่ำอย่างรุนแรงจนคนที่อยู่ภายในรถกระบะคันดังกล่าวกระเด็นออกมานอกตัวรถแล้วก็เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมาอย่างรุนแรง และชาวบ้านที่อยู่บริเวณแถวนั้นยังได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้ง ส่วนคนที่โดยสารมาก็เลยถูกไฟคอกเสียชีวิตทันทีทั้งสองรายแล้วสภาพศพก็ไหม้เกรียม เอกสารทุกอย่างภายในรถจึงไหม้ไปกับกองไฟจนไม่ทราบได้ว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองรายเป็นใครมาจากไหน ส่วนสาเหตุที่เกิดการระเบิดหลายครั้งหลังจากที่มีแสงเพลิงนั้นคาดว่ารถกระบะคันดังกล่าวอาจจะบรรทุกสารเคมีบางอย่างมาด้วยเพราะในที่เกิดเหตุนั้นยังมีเศษชิ้นส่วนของถังพลาสติกสีน้ำเงินขนาดใหญ่กระจัดกระจายอยู่

แล้วจากการสอบถาม พนักงานกวาดถนน ชื่อ คุณอ้อย
อายุ 43 ปี บอกว่า ตนกวาดพื้นกวาดขยะอยู่บนสะพานลอย ทีนี้รถกระบะขับมาชนกับขอบเกาะกลางช่องบีอาร์ที แล้วก็เสียหลักพลิกคว่ำไฟก็ลุกท่วมเลย คนก็ออกมาไม่ทัน รีบทุบกระจกออกมาก็ไม่ทันแล้วไฟลุกท่วมหมด จึงเสียชีวิตอยู่ตรงนั้นเลย แล้วก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ส่วนรถที่ผ่านไปมาก็ยังไม่มี เพราะเค้าจอดห่างๆกัน ก็มีคนที่เห็นเค้าก็แจ้งกู้ภัยดับเพลิงกัน สักพักก็มีเจ้าหน้าที่มีอาสามาถึงเนี่ยแหละ เหตุเกิดตอน 6 โมงครึ่ง

และคุณ พรรณ เป็นเจ้าของร้านขายของชำ บอกว่า แม่ตนลงมาเปิดร้านเรียงของตอนเช้า แล้วได้ยินเสียงดังครูดแรงมาก จึงรีบขึ้นไปปลุกคนบนบ้านให้ลงมา เพราะไฟมันไหม้แรงมาก ประตูร้านตนรัอนมาก ตนก็โทรแจ้งดับเพลิง ครึ่งชั่วโมงยังไม่มาเลย ดีว่ามีรถอาสามาเร็วถึงก่อน แล้วมีน้ำที่เกาะกลาง จึงช่วยกันดับ ไม่เข้าใจว่าโทรแจ้งแล้วรถดับเพลิงไม่รีบมา ทำไมไม่สแตนบายไว้ มีแต่รถน้ำต้นไม้ รถกู้ภัยมา แล้วเกาะกั้นช่องบีอาร์ทีมันเตี้ยไปอย่างให้สูงกว่านี้เพราะเกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก ถามสิว่าเครมไปกี่รอบแล้ว ต้นไม้ที่เตี้ยๆอ่ะ โดนชนไปแล้วมาปลุกขึ้นใหม่ทั้งนั้นแหละ เพราะมันชนบ่อย ไฟกลางคืนก็ไม่สว่าง เลี้ยวโค้งมาก็เกิดอุบัติเหตุกันได้ง่าย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลจุฬา ได้มอบหมายให้อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งสองราย ไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลจุฬา ก่อนที่จะมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป