สาวใหญ่ชาวกัมพูชาถึงกับน้ำตาตกไฟไหม้บ้านไม้ชั้นเดียววอดทั้งหลัง เพื่อนบ้านวอนขอความเห็นใจ

สาวใหญ่ชาวกัมพูชาถึงกับน้ำตาตกไฟไหม้บ้านไม้ชั้นเดียววอดทั้งหลัง เพื่อนบ้านวอนขอความเห็นใจ

วันที่ 26 สิงหาคม 2565
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้ามรับแจ้งจากสายด่วน 199 มีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยอนามัยงามเจริญ 33 จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัย บางขุนเทียน , อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ ) เร่งรัดจัดกำลังตรวจสอบที่เกิเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบสถานที่เกิดเหตุเป็นลักษณะเพิงพักของผู้ประกอบอาชีพค้าขายของเก่านำมารีไซเคิลเพื่อขายในเนื้อที่ดินเดียวกันมีบ้านพักอาศัยอยู่จำนวน 5-6 หลังคาเรือนในลักษณะใช้บ้านเลขที่เดียวกันคือบ้านเลขที่ 21 ซอย ง้าวสุวรรณ ถนน อนามัยงามเจริญ 33 แขวง ท่าข้าม เขต บางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร พบแสงเพลิงและกลุ่มควันเป็นจำนวนมากเกิดขึ้นบริเวณบ้านไม้ชั้นเดียวล๊อกสุดท้าย ซึ่งเป็นบ้านของนางสาว นี อายุ 55 ปี เป็นชาวกัมพูชา มีอาชีพรับซื้อถุงปุ๋ยรีไซเคิลแล้วนำมาล้างเพื่อไปขาย

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัคร จึงรีบจัดวางสายดับเพลิงเพื่อระงับเหตุเป็นการเร่งด่วนใช้เวลา 30 นาที แสงเพลิงและกลุ่มควันจึงสงบลง จากการตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุไม่พบผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และจากการตรวจสอบแล้วพบว่าบ้านต้นเพลิงหลังดังกล่าวได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วนพื้นที่ความเสียหาย 50 ตารางวา

จากการสอบถามจากนางสาว นี บอกเล่าทั้งน้ำตาและอาการตื่นตกใจกลัวว่า วันนี้เป็นวันพระก็เลยจุดเทียนไหว้พระแล้วเทียนก็เลยหล่นลงมาโดนมุ้ง โดนที่นอน เลยทำให้เกิดไฟไหม้ ตนเองมีอาชีพรับซื้อของเก่าซื้อกระสอบปุ๋ย ส่วนสามีรับซื้อขวด แล้วนำไปขายขณะเกิดเหตุตนเอง นอนอยู่หลังบ้าน ส่วนสามีออกไปขายขวด

ส่วนทางด้าน นางสาว สมใจ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 40 ปี เป็นเพื่อนบ้านบอกว่า เขาก็อยู่กันตามประสาของเขาไม่มีใครช่วยเหลือบ้านหลังนี้ชาวบ้านแถวนี้ก็ช่วยกันซื้อไม้มาช่วยกันปลูกบ้านให้เขาอยู่และตอนนี้ทรัพย์สินของเขาก็ไหม้ไปหมดแล้วไม่ได้เอาอะไรออกมาได้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว แล้วที่อยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้อยู่ฟรีต้องเสียค่าเช่าที่เดือนละ 3,000 บาท แล้วคืนนี้เขาจะไปนอนที่ไหนก็ยังไม่รู้ในเมื่อบ้านของเขาก็ไหม้ไปหมดแล้วเสื้อผ้าก็ไม่ได้เอาออกมาเลยแม้แต่ชิ้นเดียว จึงอยากวอนขอให้ผู้ใจบุญมาช่วยเหลือเขาด้วยเพราะปกติเขาก็ทำงานเดือนๆนึงก็ชักหน้าไม่ถึงหลังอยู่แล้วและต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้วเขาจะอยู่อย่างไร

เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปสาเหตุได้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนความเสียหายนั้นมีทรัพย์สินภายในบ้านหลังดังกล่าวได้เสียหายทั้งหมด และเอกสารสำคัญทางราชการพลาสปอตก็ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมดด้วย แต่ยังเคราะห์ดีที่ไฟไม่ได้รุกรามไปติดบ้านใครจึงเสียหายเฉพาะบ้านไม้หลังเดียวเท่านั้น และจากการพูดคุยกับนางสาว นี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวก็อยู่ในอาการเสียใจและตื่นตกใจ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้เป็นไปดังที่ นางสาว นี ได้กล่าวเอาไว้หรือเปล่า เพราะสามีของนางสาว นี ได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่ได้เกิดจากการจุดธูปเทียนไหว้พระ เพราะตอนที่ตนออกไปขายขวด ตนได้เป็นคนดับธูป ดับเทียน จนหมดแล้วแต่ภรรยาของตนไม่เห็นเพราะตอนนั้นภรรยาของตนอยู่หลังบ้านแล้ว สามีของ นางสาว นี ได้กล่าวเอาไว้