ชัยภูมิ ลูกเมียสุดทน ผัวทาสยานรกคลั่งทุบตีลูก เมียคว้ามีดอีโต้กระหน่ำสับหัวแบะหน้าเละดับอนาถ

ชัยภูมิ#ลูกเมียสุดทนผัวทาสยานรกคลั่งทุบตีลูกเมียคว้ามีดอีโต้กระหน่ำสับหัวเเบะหน้าเละดับอนาถ
เมียควงมีดอีโต้ซับฟันหัวใบหน้าผัวทาสยาบ้าใบหน้าเละนอนตายจมกองเลือดคาบ้านพักหลังสะสมความแค้นที่ถูกผัวข่มขู่บังคับเอาเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพเมามาทีไรจะคลั่งทำลายข้าวของและชอบทุบตีทำร้ายร่างกายลูกเมีย สุดท้ายคว้ามีดอีโต้ในครัวกระหน่ำฟันหัวและใบหน้านับ 10 ครั้ง จนใบหน้าเละแทบไม่นอนขาดใจตายต่อหน้าลูกอยู่ในบ้านพัก
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 ตุลาคม 2565 พ.ต.อ เรวัฒน์ ยวงอักษร ผกก.สภ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.วุฒิชัย เยิมสูงเนิน สว.(สอบสวน)สภ.เทพสถิตว่าได้นำตัวนางสาว นกน้อย กลิ่นศรีสุข อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 187 ม.10 ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดชัยภูมิ จากกรณีเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565นางสาวนกน้อย กลิ่นศรีสุข อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 187 ม.10 ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ได้เข้าแจ้งความว่าได้ใช้มีดอีโต้สับศีรษะและใบหน้านาย พงษ์ศักดิ์ อ่อนตา อายุ 37ปีสามีเสียชีวิตในบ้านพักเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนำไปชี้ที่เกิดเหตุพร้อมกับแจ้งให้หน่วยกู้ภัยฮุก31(จุดเทพสถิต)และแพทย์เวน รพ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ รุดไปยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่ในหมู่บ้านดิน เลขที่187 หมู่10 ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ภายในบ้านพบว่าร่างนาย พงษ์ศักดิ์ อ่อนตา นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องครัวภายในบ้านพัก สภาศพสวมเสื้อแขนยาวสีเทา-กางเกงขายาวสีดำ จากการชันสูตรพลิกศพพบว่าที่บริเวณกลางศีรษะและใบหน้าของนายพงษ์ศักดิ์ฯถูกฟันด้วยมีดอีโต้จนใบหน้าเละ มันสมองไหลแทบจำใบหน้าไม่ได้ นอนตายจมกองเลือดส่งกลิ่นคลุ้งไปทั่วบริเวณดังกล่าว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมงและในที่เกิดเหตุยังพบของกลาง 1.ด้ามมีดพร้า และมีดอีโต้ตกอยู่ในที่เกิดเหตุพร้อมด้วยขวดเหล้าขาวแก้วจานแตกกระจายไปทั่วบริเวณเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนางสาว นกน้อย กลิ่นศรีสุข อายุ 48 ปี ภรรยาที่ก่อเหตุให้การณ์กับเจ้าหน้าที่ว่าตนและผู้ตายได้คบหาอยู่กินกับผู้ตายมาประมาณ 10 กว่าปี มีบุตรด้วยกัน 1 คน ช่วงหลังๆมานี้ นาย พงษ์ศักดิ์ อ่อนตา ผู้ตายมีพฤติกรรมชอบเสพยาบ้าอย่างหนักและมักเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ทำลายข้าวของภายในบ้านและยังทำร้ายร่างกายตนกับบุตรมาโดยตลอด และผู้ตายเคยนำน้ำมันเบนชิน มาราดตัวบุตรสาว อายุ 7 ขวบ แล้วจะทำการจุดไฟเผา เนื่องจากหลอนยาบ้า แต่ตนเข้ามาห้ามไว้ แล้วอุ้ม บุตร หนีไปได้ทันและเคยไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วหลายครั้ง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาทำการ ตรวจสอบ ผู้ตายก็จะอยู่ในอาการ สงบ หรือไม่ก็หลบหนี แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ออกไป ก็จะตบ ตีตนและลูกอยู่เป็นประจำ
ในวันเวลาที่เกิดเหตุตนและสามีได้ไปเก็บกู้มันสำปะหลังที่ ตนทำไร่อยู่ประมาณ 10 กว่าไร่ และสามีได้เป็นผู้นำมันสำประหลังไปขายในตัวอำเภอฯ แล้วนำเงินกลับมามอบให้ ตนเก็บไว้ ซึ่งตนเห็นว่ายอดเงินขายมันได้มันน้อยเกินจริง จึงสอบถามผู้ตายไปว่า “มันราคาถูกลงหรือทำไมถึงได้เงินจากการขายมันมามันน้อยแท้ ” แต่ผู้ตายกลับแสดงอาการไม่พอใจ จนเกิดมีปากเสียงกันขึ้นใหญ่โต หลังจากนั้น ผู้ตายที่อยู่ในกาการเมายาและเมาเหล้าขาว ได้ตบตีทำร้ายร่างกายตน จนตนทนไม่ได้จึงใช้ขวดเหล้าขาวตีหัวผู้ตาย ไป 1 ครั้งและเห็นผู้ตาย วิ่งเข้าไปหยิบมีดปลายแหลมในห้องนอนเดินตรงเข้ามาจำร้ายตนและลูก ตนจึงหยิบเอามีดอีโต้ที่ ใช้ตัดมันสำประหลัง ซึ่งวางอยู่ที่ข้างบ้าน ฟันหัวผู้ตายจนล้มลงกับพื้นห้องและด้วยความ โกรธแค้นทีถูกผู้ตายรังแก ข่มเหงมาโดยตลอด ตนจึงได้ใช้มีดเล่มดังกล่าวฟันซ้ำเข้าที่บริเวณใบหน้านับ 10 ครั้ง จนใบหน้าเละจำแทบไม่ได้นอนแน่นิ่งขาดใจตายจมกองเลือด ต่อหน้าลูกสาวอยู่ในบ้านพักดังกล่าว หลังก่อนที่นางสาวนกน้อยฯภรรยาจะขับรถจยย.ไปแจ้งตำรวจดังกล่าว ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดชัยภูมิในเวลาต่อมาดังกล่าว

ซึ่งชาวบ้านใกล้เคียงต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าปกติสามีภรรยาคู่นี้จะก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำสาเหตุเพราะผัวชอบเสพยาบ้าและดื่มเหล้าเมามาที่ไรก็จะทำลายข้าวของภายในบ้านและจะตบตีลูกเมียอยู่เป็นประจำเป็นปกติซึ่งผู้ตายได้ติดยาบ้ามานานกว่า 7 ปี
ด้าน พ.ต.อ. เรวัฒน์ ยวงอักษร ผกก.สภ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา สาเหตุเกิดจากสุดทนที่ถูกสามีทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ล่าสุดเมื่อคืนวันเกิดเหตุ นายพงษ์ศัหดิ์ ฯผู้ตายได้ดื่มเหล้าและเสพยาบ้ามาจนเมาแทบไม่รู้เรื่องแล้วเกิดเรื่องทะเลาะและทำร้ายร่างกายลูกเมียภรรยาอีก จนภรรยาทนไม่ไหว อาศัยช่วงที่นายพงษ์ศํกดิ์ฯเผลอ จึงลงมือใช้ขวดตีหัวและใช้อาวุธมีดอีโต้กระหน่ำฟันที่บริเวณหัวและใบหน้าอย่างไม่ยั้งมือ จนใบหน้าเละแทบจำไม่ได้จนเป็นเหตุให้นายพงษ์ศักดิ์ฯสามีเสียชีวิตในที่เกิดเหตุบ้านหลังดังกล่าว โดย เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และนำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดชัยภูมิต่อไป