ชัยภูมิ คืบหน้าหวั่นทัวร์เกิดเหตุมรณะหมู่

ชัยภูมิ คืบหน้าหวั่นทัวร์เกิดเหตุมรณะหมู่
คืบหน้า วันนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีที่มีผู้ร้องเรียนบริษัทเทียนชัยแอร์ อ้างว่าถูกเอาเปรียบโดยการใช้แรงงานเกินกฎหมายกำหนด
คืบหน้ากรณีที่นางสุภาพร อธิธาดา อายุ52ปี อยู่บ้านเลขที่460 ก/5 ซอยโนนตาปาน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ออกมายืนยันว่า ตนเป็นเจ้าของเฟสบุ๊คที่โพสต์ในโซเชี่ยล และคนที่ตนอ้างถึงคือนายมานพ อธิธาดา สามีของตนที่เป็นพนักงานขับรถโดยสารปรับอากาศ หมายเลขประจำรถ28/2 บริษัทเทียนไชยแอร์ชัยภูมิ วิ่งระหว่างจังหวัดชัยภูมิ ปลายทางคือสถานีขนส่งหมอชิตกรุงเทพ ระยะทาง350กิโลเมตร ใช้เวลาวิ่งขาละ6ชั่วโมง สาเหตุที่ตนต้องโพสต์ภาพพร้อมระบายความในใจลงในติ๊กต็อกนั้น เกิดจากความกังวลจนอึดอัด ในการทำหน้าที่ของสามี ที่ต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบต่อชีวิตของผู้โดยสารมานานนับปี โดยที่สามีตนต้องทำหน้าที่เพียงคนเดียวตามลำพัง และที่สำคัญการทำงานไม่เป็นไปตามกฎหมายของกระทรวงแรงงาน ซึ่งตำแหน่งพนักงานมีความสำคัญต่อชีวิตผู้โดยสารเป็นอย่างมาก จำเป็นต้องมีพนักงานขับรถประจำรถโดยสารปรับอากาศอย่างน้อย2คน เพื่อสับเปลี่ยน เนื่องจากระยะทางในการขับรถยาวนาน แต่บริษัทเทียนไชยแอร์ กลับมีพนักงานขับรถที่เป็นสามีตนเพียงคนเดียวทำหน้าที่ทุกอย่าง ที่สำคัญต้องขับรถกลับหัว สามขา คือขับรถไปกลับ
ล่าสุด ได้เดินทางมายังสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชัยภูมิพร้อมกับสามี และเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานฯ เพื่อขอให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้น
นางสุภาพร พวงเดช สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นและเป็นข่าวนี้ตนเพิ่งได้รับหนังสือร้องเรียนในเช้าวันนี้ จากนั้นได้ทำการสอบถามปัญหาเบื้องต้นจากผู้เดือดร้อน ผบว่า ปัญหาหาที่เกิดขึ้นนี้ เกี่ยวข้องกับหน่วยงานทั้งประกันสังคม ขนส่งจังหวัด และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในส่วนของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานนั้น เข้าข่ายการใช้แรงงานที่ไม่เกิดความเป็นธรรม ซึ่งทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หลังได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้วก็จะเชิญผู้ประกอบการเข้ามาชี้แจงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น หากพบว่าเป็นการกระทำความผิดจริงก็จะดำเนินการตามกฏหมาย
นายจรูญ จงไกรจักร ขนส่งจังหวัดชัยภูมิ ยอมรับว่าจากกรณีที่เป็นข่าวทางขนส่งไม่ได้นิ่งนอนใจได้เชิญตัวนาย ธีรพงศ์ เทียนไชย เจ้าของบริษัทเทียนชัยแอร์ มาทำการสอบสวน ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเบื้องต้น นายเทียนชัยยอมรับว่า ให้พนักงาน ขับรถเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมีโทษปรับ 20,000 ถึง 50,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการกระทำผิดครั้งแรก จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 20,000 บาท
นางกุหลาบ ประสบเงิน ตัวแทนผู้ประกอบการ บริษัทเทียนชัยแอร์ ยอมรับว่า กรณีที่เกิดการร้องเรียนนี้เป็นเรื่องจริง เนื่องจากพนักงานขับรถ จะมีประจำรถเพียงคันละหนึ่งคนเท่านั้น ซึ่งอยู่ในเงื่อนไขของกฎหมายที่กำหนดไว้ในระยะทาง ไม่เกิน 400 กิโลเมตร ส่วนกรณีของนายมานพเกิดจากปัญหารถปรับอากาศอีกคันนึงที่กำลังจะนำส่งผู้โดยสารจากชัยภูมิไปกรุงเทพ เกิดขัดข้องจึงจำเป็นต้องให้นายมานพ ซึ่งเป็นพนักงานขับรถประจำรถปรับอากาศหมายเลขดังกล่าว รับผู้โดยสารขับกลับอีกเที่ยว ซึ่งทางบริษัท ยอมรับ ว่าได้กระทำผิดระเบียบขนส่งจริงจึงยินยอมที่จะรับโทษโดยยอมเสียค่าปรับในจำนวน 20,000 บาท
ในส่วนของเงินหักเป็นเงินกองกลาง นั้น ทางบริษัทจะนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการเพื่อดำเนินการตามความประสงค์ของนายมานพต่อไป