เมื่อเวลา 18.30 น.
วันที่ 13 เม.ย. 2566
ที่ สน.ทุ่งครุ นายชุติเดช อายุ 47 ปี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง รหัส คำรพ 11 เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.วิทยา บุญคุ้ม สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งครุ หลังถูก ชายอายุประมาณ 45-50 ปี ข่มขู่คุกคามด้วยการพกพาอาวุธขวานไปตามล่าหาตัวถึงสถานที่ปฏิบัติงาน นาย ชุติเดช ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 เม.ย. ตนขับขี่ รถ จยย.ไปพบเหตุรถชนกันบริเวณหน้าโรงเรียนอิสลามวิทยาลัย โดย ชาย คู่กรณีซึ่งตนก็ไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน ขับรถเก๋ง Toyota รุ่น Vios สีขาว ทะเบียน 2 กร 7984 กรุงเทพมหานคร ไปเฉี่ยวชนกับรถเก๋งอีกคันหนึ่งซึ่งมีผู้ขับขี่เป็นผู้หญิง จากนั้นตนเห็นว่า ชายผู้ก่อเหตุ มีท่าทีจะทำร้ายร่างกายคนขับรถเก๋งคู่กรณีที่เป็นผู้หญิง ตนจึงรีบติดต่อให้ตำรวจมาระงับเหตุแล้วออกจากจุดเกิดเหตุโดยไม่ได้คิดเอะใจใดๆ จากนั้นช่วงเย็นมีคนรู้จักบอกตนว่า ชายผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางไปหาเรื่องตนที่จุดจอดรถกู้ภัย โชคดีที่ตอนนั้นตนไม่ได้อยู่ในจุดดังกล่าว กระทั่งเช้าวันนี้ ชายผู้ก่อเหตคนดังกล่าว เดินทางไปถามหาตนอีกครั้งพร้อมถือขวานในมือไปด้วย ตนเห็นว่าไม่ปลอดภัยจึงรีบเดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม
นาย ชุติเดช (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ผู้ร้องทุกข์ บอกเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 เมษายน ช่วงเวลาประมาณ 8 โมงครึ่ง ตนขี่รถผ่านมาบริเวณจุดเกิดเหตุคือหน้าโรงเรียนอิสลามวิทยาลัย มีรถยนต์เก๋ง 2 คัน จอด เหมือนมีเหตุเฉี่ยวชนกัน แล้วก็มีผู้ชายลงมาต่อว่าด่าทอ คู่กรณีซึ่งเป็นผู้หญิงนั่งร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวอยู่ในรถ แล้วยังด่ากราดคนที่ผ่านไปมา ตนจึงประสานไปยังกู้ชีบูรณะ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกู้ภัยหรืออาสาสมัครที่เจอเหตุก็ต้องแจ้งเหตุเป็นปกติธรรมดาอยู่แล้ว หลังจากนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ชายคนนั้นก็หันมาทางตนและบอกว่า มึงโทรแจ้งตำรวจมาจับกูทำไม พอรถกู้ภัยมาถึงก็จอดตรงจุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบดูว่ามีคนเจ็บมั้ย ก็ยังไปพาลว่ากู้ภัยอีกว่า จอดรถเกะกะ หลังจากนั้น นึกว่าเหตุการณ์จะจบ แต่ป่าวเลย ทราบมาว่า ยังไปตามหาตนที่จุดจอดตรงใต้ด่วนทุ่งครุ ที่มีกู้ภัยจอดอยู่ ลงไปถามหา สามีโอ๋ อยู่ไหน กู้ภัยบริเวณนั้นก็นึกว่า ไปส่งคนเจ็บ เลยบอกว่า เด๋วเค้าก็มา รอก่อน แต่เค้าไม่รอ เดินกลับไป พอมาเช้าวันนี้ก็ยังออกตามล่าหาตามจุดจอดของกู้ภัยอีก เป็นตรงปั้มเอสโซ่ประชาอุทิศ 54 แต่วันนี้เป็นเวรของร่วมกตัญญู ก็ไปถามหา สามี โอ๋อีก กู้ภัยจุดนั้นก็ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จัก พอตอนเที่ยง ก็จอดรถตรงจุดเกิดเหตุ แล้วถือขวานลงรถข้ามไปที่ป้อม รปภ. หมู่บ้าน ไปถาม รปภ.ว่า ใครแจ้งตำรวจ รปภ.ก็บอก เค้าไม่ได้แจ้ง เค้าก็ยืนอยู่กับคนก่อเหตุไง ชายคนนั้นก็บอกว่า “ถ้าไม่มีใครออกมาขอโทษกู บอกเลยไม่จบแน่ มันเป็นใครถึงได้โทรแจ้งตำรวจมาจับ ขนาดตำรวจยังทำไม…ไม่ได้เลย” แล้ว ก็เดินถือขวานกลับไปขึ้นรถ ตนจึงถ่ายไว้เป็นหลักฐานเพราะเข้ามาในบริเวณที่ส่วนบุคคล หลังจากนั้นตอนประมาณ บ่าย 3 โมง ก็ไปจอดรถบริเวณปากซอยประชาอุทิศ 79 แล้วลงไปเอาขวานเหน็บกางเกงข้างหลังมาถามหา สามี โอ๋อีก ถาม “สามี โอ๋อยู่ไหน กูจะเล่นมันคนเดียว” แล้วก็ข้ามกลับไป จนตนต้องไปแจ้งความไว้ เพราะมาถึงขนาดเอาขวานมาตามล่าตัว มันไม่ปลอดภัยแล้วหรือไม่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ให้ลงบันทึกประจำวันไว้ และยังบอกมาอีกว่า ผู้ชายคนนี้ มีเรื่องประจำ เจอรถจอดข้างหน้าก็ลงรถไปด่าเค้าตลอด สุดท้ายแล้วเนี่ย ตนต้องทำอย่างไรเรื่องถึงได้จบ ถ้าบอกว่า ให้ตนไปขอโทษ ตนถามหน่อย ตนผิดอะไรหรอ ผิดตรงที่แจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุหรือไม่ มันไม่ใช่ ตนเป็นอาสากู้ภัย ตนพบเจอเหตุ ตนต้องแจ้งเหตุ ให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการ ถ้ามีคนเจ็บก็ให้กู้ภัยดำเนินการ ถ้ากีดขวางจราจร ก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการก็ถูกต้องแล้วนะ สุดท้ายแล้วเรื่องจะจบยังไง จะมีใครช่วยเข้ามาแก้ไขหรือป้องกันยังไงได้บ้าง
โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะประสานงานกับฝ่ายสืบสวนเพื่อ เรียกตัวคู่กรณีมาสอบปากคำก็ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
Leave a Reply