ตร.เร่งรวบรวมหลักฐานออกหมายจับผู้ก่อเหตุอุ้มฆ่า 2 หนุ่มไทยที่เป็นนายหน้าจัดหาแรงงานต่างชาติ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 เมษายน 2566 พ.ต.อ.มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว ให้สัมภาษณ์ คืบหน้าทางคดีอุ้มฆ่า 2 หนุ่มไทยที่เป็นนายหน้าจัดหาแรงงานต่างชาติ และพบศพที่ อ.ไทรน้อย จ.ปทุมธานี เมื่อวานที่ผ่านมานั้น ว่าขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว และอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินตามกฎหมาย
พ.ต.อ.มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้สืบสวนจนกระทั่งพบหนุ่มไทย 2 คน ที่ถูกอุ้มและเสียชีวิตแล้วเมื่อวานนี้ โดยทางญาติได้ไปตรวจสอบและชี้ศพว่าเป็นผู้ที่หายไปทั้ง 2 คนจริง ในส่วนการสอบสวนและการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดนั้น ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบตัวผู้กระทำผิดทั้งหมดแล้ว โดยกำลังเร่งดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบสมบูรณ์ และนำเสนอศาลเพื่อออกหมายจับในบ่ายวันนี้ เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุเป็นผู้ชาย 9 คน และผู้ 2 คน ซึ่งพบว่าจากกล้องวงจรปิดว่าอยู่ในที่เกิดเหตุ และจะต้องร่วมกันรับผิดชอบความผิดในคดีนี้ พนักงานสอบสวนได้มีการตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย เจตนาฆ่า และมีการเคลื่อนย้ายศพเพื่อหลบเลี่ยงการกระทำผิด และจะตั้งข้อหาตามพยานหลักฐานที่พบทั้งหมด โดยหลังจากเกิดเหตุนั้น ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปในวันรุ่งขึ้น แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีการหนีออกนอกประเทศไปหรือไม่ ต้องดูจากพยานหลักฐานที่หามาได้ ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ทางชุดสืบสวน สภ.บางแก้วได้มีการติดตามและตรวจสอบกล้องวงจรปิดตั้งแต่จุดเกิดเหตุไปถึง จ.ปทุมธานี จนไปพบผู้เสียชีวิตทั้งสองคนเมื่อวานนี้ ตอนนี้หลักฐานต่างๆค่อนข้างที่จะครบสมบูรณ์ เหลือเพียงรอรายละเอียดการยืนยันตัวผู้เสียชีวิต จากนั้นจะเร่งดำเนินการออกหมายจับกับผู้กระทำความผิดทั้งหมดทันที
จากข้อมูลที่ได้รับทราบจากผู้เสียหาย เรื่องการขนย้ายแรงงานต่างชาติทั้งภายในประเทศ และจากนอกประเทศนั้น มีหลักฐานชัดเจนว่าเพียงแค่ 4 คนที่อยู่ในบ้านหลังที่เกิดเหตุที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนอีก 7 คนที่เหลือยังไม่มีพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ตำรวจพบว่า ทั้ง 7 คนนั้น ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และพักอาศัยอยู่ที่หอพักใกล้กับบ้านที่ผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่ คาดว่าน่าจะมีความสนิทสนมกันพอสมควร ในส่วนของความเกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์นั้น ยังต้องหาพยานหลักฐานที่ชัดเจนก่อนจึงจะสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ในส่วนของคนที่อยู่ที่ประเทศมาเลเซียนั้น ญาติของผู้เสียชีวิตทราบเพียงว่า เป็นนายทุนในการดำเนินการเคลื่อนย้ายแรงงาน ส่วนการทำงานของผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุที่อยู่บ้านเดียวกันนั้น ทั้งหมดย้ายเข้ามาพักบ้านหลังที่เกิดเหตุเมื่อช่วงเดือนมีนาคม แต่ก่อนหน้านี้ไม่ทราบรายละเอียด ทราบเพียงว่าเริ่มทำงานด้วยเดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนเส้นทางการเงินของผู้เสียชีวิต ทางตำรวจได้มีการขอข้อมูลจากทางธนาคารเรียบร้อยแล้ว หากรับข้อมูลจะทำการตรวจสอบต่อไป นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบว่า เงินที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้น่าจะมากกว่า 100,000 บาท เนื่องจากมีการจดบันทึกลงในสมุดไว้ แต่ไม่มีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับธนาคารมาประกอบ ซึ่งอาจจะเป็นบัญชีส่วนตัวก็ได้ และยังไม่ทราบว่า มีการทำงานร่วมกันมานานแค่ไหน เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ จากการสอบถามผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงนั้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุอีก 7 คนที่หลบหนีไปด้วยนั้น ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารใกล้เคียงกับหอพักและจุดเกิดเหตุในซอยกิ่งแก้ว 39 ซึ่งในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาก็ได้มีการออกมาเล่นน้ำตามปกติ และจากการสอบถามทางร้านอาหารที่ผู้ก่อเหตุทำงานอยู่ เจ้าของร้านยืนยันว่า มีใบอนุญาตการทำงานแรงงานต่างชาติอย่างถูกต้อง แต่ยังไม่ได้มีการนำหลักฐานมายื่นต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งคดีนี้ค่อนข้างจะเป็นคดีที่สะเทือนขวัญเนื่องจากผู้เสียชีวิตประชาชนคนไทย แต่ผู้ก่อเหตุนั้นเป็นแรงงานชาวพม่าและแรงงานข้ามชาติอื่นๆ โดยขณะนี้ทางตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว ส่วนปมเหตุของคดีดังกล่าวต้องซักถามจากผู้ก่อเหตุเพื่อยืนยันอีกครั้งหนึ่ง
ในส่วนการทำงานที่ถูกผู้บังคับบัญชาติติงนั้น ถือเป็นเรื่องปกติเพื่อการปรับปรุงการทำงาน ทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ดูแลครอบครัวผู้เสียหายเป็นพิเศษ โดยตั้งแต่มีการแจ้งเหตุนั้น ทางตำรวจได้แจ้งขั้นตอนการทำงานให้ทางพ่อแม่ และทางแฟนของผู้เสียตายให้ทราบโดยตลอดเพื่อให้เกิดความสบายใจว่าทางตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ ในส่วนของรายละเอียดแรงงานต่างชาติที่เกี่ยวข้องต้องมีการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนว่าแต่ละคนนั้นเข้าออกประเทศจากทางใด โดยเหตุดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 20 ไปถึงเช้าของวันที่ 21 ทางผู้เสียหายได้เดินทางเข้ามาแจ้งความคนหายในวันที่ 22 ประมาณ 21.00 น. จากนั้น ผู้เสียหายได้กลับไปรวมรวบข้อมูลเพิ่มมายื่นแก่เจ้าพนักงานในวันที่ 23 และได้มีการโทรหาทาง ผกก.สภ.บางแก้วในวันที่ 24 เพื่อพูดคุยรายละเอียดต่างๆด้วยความร้อนใจ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการลงพื้นที่หาข้อมูลตั้งแต่วันที่ 22 ที่ผ่านมา โดยมีการตรวจสอบกล้อวงวงจรปิดตั้งแต่สถานที่เกิดเหตุไปจนถึง จ.ปทุมธานี คดีนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญเป็นอย่างมากโดยประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ และชุดสืบสวนภาค 1 เพื่อร่วมกันติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ
ในส่วนของรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิดนั้น เป็นรถมือสอง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ ไทป์แซด ที่นายสมชายได้ซื้อมาใช้งาน ในราคา 50,000 บาท และได้มีการขายรถคันดังกล่าวกลับคืนให้เจ้าของเดิมในราคา 20,000 บาทหลังจากก่อเหตุทันทีแล้วจึงหลบหนีไป

อัญมณี คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ 095-5543516

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link