หนองคาย หนุ่มคลั่งถือมีดพร้าทุบทำลายบ้านและทรัพย์สินชาวบ้าน

หนองคาย หนุ่มคลั่งถือมีดพร้าทุบทำลายบ้านและทรัพย์สินชาวบ้าน
หนุ่มใหญ่วัย 32 ชาวบ้านโนนต้อง ต.นาดี อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย เสพยาบ้าจนหลอนถือมีดพร้าทุบทำลายบ้านเรือนและทรัพย์สินชาวบ้านเสียหาย 4 หลัง ตำรวจเข้าระงับเหตุถูกฟันได้รับบาดเจ็บ ก่อนระดมกำลัง ทั้งฝ่ายปกครอง อส. และตำรวจ เข้าทำการปิดล้อมจับกุมอีกรอบ ในขณะที่ชาวบ้านและญาติพี่น้องวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวไปรักษา
วันนี้ (22 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ บ้านโนนต้อง หมู่ 4 ต.นาดี อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย หลังมีการเผยแพร่ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ หนุ่มใหญ่คลั่งถือมีดพร้าทุบทำลายบ้านเรือนและทรัพย์สินชาวบ้านเสียหาย กว่ากว่า 4 หลัง ชาวบ้านต่างแตกตื่นกันทั้งหมู่บ้าน
จากการลงตรวจสอบในพื้นที่พบนายบัวสี โพธิ์สีดา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่4 ได้เล่าว่า ผู้ก่อเหตุคือนายพงษ์เทพ สีหานาม หรืออาร์ท อายุ 32 ปี โดยได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งก่อเหตุถือมีดไล่ทำร้ายคนและทำรายข้าวของชาวบ้าน เมื่อเวลา 15.00 น. ของเมื่อวาน วันที่ 21 พฤษภาคม 2566 เสียหายกว่า 4-5 หลัง จึงแจ้งไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมา พลาดท่าโดนมีดพร้านายอาร์ท บาดเจ็บไป 2 นาย เย็บหลายเข็ม จึงรีบแจ้งชาวบ้านให้หลบอยู่ในบ้านและปิดประตูหน้าต่าง พร้อมพาเดินสำรวจความเสียหายที่นายอาร์ท ทำไว้
จุดแรกที่ก่อเหตุคือบ้านนางบังอร สีหานาม บ้านเลขที่ 58 หมู่4 ต.นาดี ประตูกระจกเสียหายสี่บาน
จุดที่สองเป็นร้านของชำของนางราตรี โพธิ์ศรีตา ทรัพย์สินที่เสียหายคือตู้เย็น
จุดที่สามก่อเหตุช่วงเวลาประมาณ 22.12 น. ใช้มีดฟันกระจกรถยนต์ มิซูมิซิ 4 ประตูสีดำ ทะเบียน กฉ 3015 หนองคาย ของนายปฏิพล อินพันธุ์ ได้รับความเสียหายทั้งบาน
และจุดที่ 4 คือบ้านเลขที่ 139 หมู่ 4 บ้านของนางพัว เบญจริน กระจกหน้าต่างบ้านเสียหายหนึ่งบาน
หลังเกิดเหตุ 2 จุดแรก ชาวบ้านก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฝ้าไร่ ให้เข้ามาจับกุม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาพร้อมอุปกรณ์ไม้ง่าม แต่ก็ถูกนายอาร์ทใช้มีดพร้าฟันจนได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย จนต้องยุติการเข้าจับกุม นายอาร์ทจึงหลบหนีการจับกุมไปได้
ต่อมาเวลาประมาณ 09.00 น.วันนี้ (22 พฤษภาคม 2566) ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการนำของว่าที่ร้อยตรี พงษ์สิทธิ์ เปรยะโพธิเดชะ นายอำเภอเฝ้าไร่ และ พ.ต.อ.จารึก พุ่มระย้า ผกก.สภ.เฝ้าไร่ ปูพรมค้นหา จนกระทั่งทราบว่านายอาร์ท ได้มาหลบซ่อนอยู่ที่บ้านญาติ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าไปจับกุมไว้ได้ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เฝ้าไร่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามนางสำราญ อุดม อายุ 55 ปี ที่อยู่ 63 หมู่ 4 ต.นาดี อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ช่วงแรกเกิดตอนเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันที่ 21 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ตนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ ผู้ก่อเหตุได้ทุบกระจกบ้านหลังแรก จากนั้นก็ไปก่อเหตุหลังที่สองที่เป็นร้านขายของชำ ชาวบ้านและตนก็พากันวิ่งหลบภัยหนีตายกัน ส่วนบ้านของตนมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ จะเห็นแค่ใช้มีดพร้าฟันอยู่บริเวณหน้าบ้าน ลูกของตนก็เข้าไปหลบอยู่ใต้เดียงในห้อง ตนมาถึงบ้านก็ได้มาปิดประตูบ้าน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง 5 นาย ซึ่งพยายามเข้าจับกุมตัว แต่ถูกฟันได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือถูกฟันที่บริเวณศีรษะ จนต้องนำส่งโรงพยาบาล คนหนึ่งเย็บ 6 เข็ม ส่วนอีกคนเย็บ 4 เข็ม จนกระทั่งเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ก็ได้เดินทางเข้ามาเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุอีก แต่ก็ไม่พบตัวนายอาร์ท ตนจึงได้แจ้งให้ไปตามที่บ้านญาติ อีกหลังหนึ่งที่อยู่ถัดกันไปอีกไม่ไกล เพราะตนได้ยินเสียงดึงประตูอยู่ แต่ก็ไม่พบตัวนายอาร์ท คาดว่าจะหลบหนีไปยังจุดอื่นแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ยุติการค้นหา

นางก้าน สีหานาม แม่ผู้ก่อเหตุ เล่าว่าลูกชายเคยเป็นทหารอากาศที่ จังหวัดอุดรธานี เป็นเวลาสองปี หลังปลดประจำการได้แต่งงานมีลูกสาวหนึ่งคน ปัจจุบันอายุ 10 ขวบ อาศัยอยู่กับตา
เมื่อแต่งงานลูกชายและลูกสะใภ้เดินทางไปทำธุรกิจที่ กทม. เป็นเวลา 7 ปี ลูกชายเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างมีลูกน้องไม่ต่ำกว่า 10 คน ลูกชายเป็นคนทำมาหากิน ขยันหมั่นเพียร เป็นผู้รับเหมาที่มีฝีมือ แต่อยู่ๆ มีเหตุต้องเลิกกันกับภรรยา ลูกชายจึงกลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ 3 ปีแล้ว และเริ่มกินเหล้า เสพยา ที่อาการหนักก็ประมาณ 1 ปีได้ เสพยาจนมีอาการหลอน พาไปรักษาถึง 3 ครั้งแล้วแต่ก็ไม่ดีขึ้น ถ้าไม่เสพยาลูกชายก็เป็นคนปกติ ไม่เคยทำร้ายใคร
วันที่ 21 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 14.00 น. มีอาการคุ้มคลั่งถือมีดไล่ทำร้ายคน ทำรายข้าวของชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้านจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเวลา 15.00 น. เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง ถูกลูกชายทำร้ายเจ้าหน้าที่บาดเจ็บไป 2 นาย และลูกชายได้หลบหนีไป ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านตามหากันทั้งคืนแต่หาไม่เจอ
เช้าวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 มีชาวบ้านแจ้งว่าเจอลูกชายอยู่ในบ้านเพราะเปิดกล้องวงจรปิดเจอ เป็นบ้านของนางสำราญ อุดม บ้านเลขที่ 63 หมู่ 4 ผู้ใหญ่บ้านจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจและฝ่ายปกครองอำเภอเฝ้าไร่เดินทางถึงบ้านที่ลูกชายตัวเองหลบอาศัยอยู่ เวลาประมาณ 08.30 น. และได้เข้าทำการจับกุมนายพงศ์เทพ สีหานาม โดยไม่มีการขัดคืนเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะที่โรงพยาบาลเฝ้าไร่
นางก้าน สีหานาม แม่ของผู้ที่ก่อเหตุ บอกว่า อยากให้เอาตัวลูกชายไปรักษา ทุกอย่างอาจจะดีขึ้นกว่าเดิม อาจจะกลับตัวเป็นคนดีเหมือนคนอื่น ๆ หากยังอยู่แบบนี้ชาวบ้านอาจจะเดือดร้อน พ่อ-แม่ญาติพี่น้องก็เดือดร้อนด้วย.