แม่ทัพ สตม.สั่งการเข้ม! ระดม ตม.ครึ่งร้อย ปิดซอยย่านสุขุมวิท-อโศก ต้อนจนมุมบุคคลต่างด้าวนับสิบ ลอบเร่ขายอาหาร – เปิดแผงขายของ ผิดกฎหมาย

สืบเนื่องข้อร้องเรียนและเบาะแสจากประชาชนรวมถึงโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับชาวต่างชาติลักลอบเร่ขายสินค้า รวมถึงเปิดแผงค้าขายอาหาร เครื่องดื่ม แย่งอาชีพคนไทย โดยเฉพาะย่านธุรกิจสำคัญ กลางกรุงเทพมหานคร

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1 ซึ่งรับผิดชอบ พื้นที่กรุงเทพมหานคร และ พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. รับผิดชอบหน้างานสืบสวน ประชุมสั่งการระดมข้าราชการตำรวจหลายสิบนาย ในสังกัด กก.สืบสวน บก.ตม.1 กก.1,2,4 และ กก.ปอพ. บก.สส.สตม. เปิดปฏิบัติการกวาดล้างบุคคลต่างด้าวที่กระทำความผิดตาม กฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองและกฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าวครั้งใหญ่ โดยมีพื้นที่เป้าหมายเป็นฟุตบาทบริเวณ ถ.สุขุมวิท ตั้งแต่ย่านนานา จนถึงอโศก

พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผบก.ตม.1 , พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม.,
พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.ศท.ตม.ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สรธรรศจ์ เอี่ยมละออ ผกก.1 บก.สส.สตม.,
พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม.,
พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม.,
พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม.
และ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1
ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนทั้งหมดเป็นการเร่งด่วน

หลังจากนั้นเวลาประมาณ16.00 น. ได้เริ่มออกปฏิบัติการต่อเนื่องจนถึง 20.00 น. โดยปิดหัวซอยท้ายซอย รวมถึงริมถนนสุขุมวิท จนแล้วเสร็จในช่วงดึก

สรุปผลการปฏิบัติสามารถจับกุม
บุคคลต่างด้าวสัญชาติ
– สัญชาติเมียนมาร์ 9 คน
– สัญชาติกัมพูชา 2 คน
– สัญชาติลาว 1 คน
-บุคคลต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม อีก 1 คน
– บุคคลซึ่งไม่มีสถานะทางทะเบียน 1 คน

นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมโยงถึงนายจ้างคนไทย และจับกุมในข้อหารับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกจำนวน 2 คน

รวมจับกุมคนต่างด้าวและคนไทย รวมผู้ต้องหา 16 คน

ทั้งนี้ผู้ต้องหาส่วนใหญ่ถูกจับกุมขณะเร่ขายอาหาร และเสื้อผ้าโดยใช้รถเข็นเคลื่อนที่ และแผงลอยแบบชั่วคราว บางส่วนเมื่อสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่พยายามจะหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมพื้นที่ไว้อย่างรัดกุมจึงสามารถจับกุมได้

ทั้งนี้ผู้ถูกจับบางรายไม่สามารถแสดงเอกสารหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงานให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ บางรายมีหนังสือเดินทางแต่การอนุญาตสิ้นสุด หรือได้รับการผ่อนผันการตรวจลงตราให้เดินทางเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามการเร่ขายสินค้านั้นเป็นงานต้องห้าม คนต่างด้าวไม่สามารถทำได้ อันเป็นความผิดตาม มาตรา 8 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 สำหรับตัวบุคคลต่างด้าวมีโทษปรับ 5,000-50,000 บาท ส่วนนายจ้างจะมีโทษปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท และมีโทษจำคุกอีกด้วย

ปฏิบัติการครั้งนี้ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่งได้มอบหมายให้ สตม. เป็นหน่วยงานหลัก ในการดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม, พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ที่ได้สั่งการให้เร่งรัดตรวจสอบคนต่างด้าวที่มีพฤติการณ์ลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย หลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีเงินได้ อันเป็นการเอาเปรียบผู้ประกอบการที่ทำมาหากินโดยสุจริต รวมทั้งลักลอบจ้างคนต่างด้าวทำงานโดยฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบ.

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link