สืบ ตม.1 ปิดซอยสุขุมวิท 11 รวบบุคคลต่างด้าวหลายสัญชาติ ลอบเร่ขายอาหาร เปิดแผงขายของ แย่งอาชีพคนไทย

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. 2566 กก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้รับเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแสจากประชาชนรวมถึงโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับชาวต่างชาติลักลอบเร่ขายสินค้า รวมถึงเปิดแผงค้าขายอาหาร เครื่องดื่ม แย่งอาชีพคนไทย โดยเฉพาะย่านธุรกิจสำคัญ กลางกรุงเทพมหานคร

พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1 ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนเป็นการเร่งด่วน และได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผบก.ตม.1 รักษาราชการแทน ผกก.สืบสวนฯ และ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.ฯ กำหนดพื้นที่เป้าหมายในการตรวจสอบ บริเวณ ถ.สุขุมวิทตอนต้น และที่บริเวณ สืบ ตม.1 รวบบุคคลต่างด้าวหลายสัญชาติ นับสิบราย ลอบเร่ขายของ เปิดแผงขายอาหาร แย่งอาชีพคนไทย

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย. 2566 กก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้รับเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแสจากประชาชนรวมถึงโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับแก๊งชาวต่างชาติลักลอบเร่ขายสินค้า รวมถึงเปิดแผงค้าขายอาหาร เครื่องดื่ม แย่งอาชีพคนไทย โดยเฉพาะย่านธุรกิจสำคัญ กลางกรุงเทพมหานคร

พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1 ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนเป็นการเร่งด่วน และได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผบก.ตม.1 รักษาราชการแทน ผกก.สืบสวนฯ และ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.ฯ กำหนดพื้นที่เป้าหมายในการตรวจสอบ พบว่าบริเวณ ถ.สุขุมวิทตอนต้น ซึ่งเป็นย่านที่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก พบมีบุคคลลักษณะคล้ายคนต่างชาติ หลายราย มาประกอบอาชีพค้าขาย ในลักษณะแย่งอาชีพคนไทย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.ตม.1 จึงเข้าตรวจสอบบริเวณ ถ.สุขุมวิท ในซอย 11 จับกุม ชาวเวียดนาม 1 ราย และ เมียนมาร์ 2 ราย ขณะเร่ขายอาหาร และเสื้อผ้าโดยใช้รถเข็นเคลื่อนที่ และแผงลอยแบบชั่วคราว

ทั้งนี้ผู้ถูกจับบางรายไม่สามารถแสดงเอกสารหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงานให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ บางรายมีหนังสือเดินทางแต่การอนุญาตสิ้นสุด หรือได้รับการผ่อนผันการตรวจลงตราให้เดินทางเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามการเร่ขายสินค้านั้นเป็นงานต้องห้าม คนต่างด้าวไม่สามารถทำได้ อันเป็นความผิดตาม มาตรา 8 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 สำหรับตัวบุคคลต่างด้าวมีโทษปรับ 5,000-50,000 บาท ส่วนนายจ้างจะมีโทษปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท

ปฏิบัติการครั้งนี้ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่งได้มอบหมายให้ สตม. เป็นหน่วยงานหลัก ในการดำเนินการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม, พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1 ที่ได้สั่งการให้เร่งรัดตรวจสอบคนต่างด้าวที่มีพฤติการณ์ลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย หลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีเงิน อันเป็นการเอาเปรียบผู้ประกอบการที่ทำมาหากินโดยสุจริต รวมทั้งลักลอบจ้างคนต่างด้าวทำงานโดยฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบ.

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link