สลดพ่อเฒ่าวัย 68 ปี จะไปหาปลาแต่หน้ามืดหัวปักโคลนดับสลดท่าน้ำหลังบ้าน

วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 เวลา 14.30 น.

ร้อยตำรวจเอก สุวิจักขณ์ น้อยศรี รอง สว.สอบสวน สน.บางมด รับแจ้งมีผู้พบศพชายอายุ 68 ปี บริเวณท่าน้ำหลังบ้านภายในซอยจอมทองซอย 3 จึงเร่งรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อม อาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดบริเวณท่าน้ำด้านหลังบ้านเลขที่ 13/13 ซอย จอมทอง ซอยที่3 ถนน จอมทอง แขวง จอมทอง เขต จอมทอง กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะบ้านไม้ชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิด จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณสะพานท่าน้ำด้านหลังบ้านหลังดังกล่าวเป็นลักษณะสะพานหัวเดียวทำจากไม้สภาพเก่าเดินสุดสะพานริมตลิ่งพบศพชาย อายุ 68 ปี ในลักษณะนอนคว่ำหน้าติดกับดินโคลน อยู่บริเวณริมตลิ่งคลองดาวคะนอง ในสภาพการแต่งกายสวมใส่เสื้อกล้ามสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมรองเท้า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูพร้อมญาติช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาบนฝั่งด้วยความทุลักทุเล เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินโคลนจึงใช้ความยากลำบากในการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต

จากการสอบถาม ภรรยาผู้ตาย อายุ 75 ปี กล่าวว่าผู้ตายหายตัวไปตั้งแต่ตอนช่วงเวลา 05.00 น. ของวันนี้ก็นึกว่าออกไปหาปลา เพราะปรกติแล้วผู้ตายชอบเอาเรือออกไปหาปลาในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นประจำ ผู้ตายมีเรืออยู่ 2 ลำ เอาใว้ใช้สลับกันไปเวลาออกไปหาปลาก็จะไปไกลถึงแม่น้ำเจ้าพระยา พอถึงช่วงเวลา 9.00 น. ก็เริ่มจะเอะใจแล้วเพราะช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ผู้ตายต้องกลับมาทานอาหารเช้าที่บ้านเป็นประจำ แต่วันนี้กลับหายไป ก็เลยบอกลูกสาวพร้อมชาวบ้านช่วยกันเดินตามหาแต่ก็เจอเรือทั้งสองลำจอดอยู่ สุดท้ายก็มาเจอร่างผู้เสียชีวิตในลักษณะนอนคว่ำหน้าหัวปักลงไปในโคลน ปรกติผู้ตายมีโรคประจำตัวหลายโรค เป็นทั้งความดัน ถุงรมโป่งพองด้วย ตรงนี้ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ตายเกิดหน้ามืดแล้วพลัดตกลงไปเองก็เป็นได้

เบื้องต้นญาติไม่ติดใจเอาความกับผู้ไดเพราะคาดว่าผู้ตายน่าจะเกิดจากโรคประจำตัวกำเริบแล้วทำให้เกิดเหตุการณ์สลดดังกล่าว ส่วนทางแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบสภาพศพแล้วไม่พบร่องรอยของบาดแผล และไมพบข้อสงสัยไดๆจึงมอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป