ของต้องมี!!เหรียญหลวงปู่แผ้ว ครบ 101 ปี รุ่น”อายุยืน” จเรหินจัดสร้าง เซียนจ้องรีบเก็บบูชา
เอ่ยชื่อ เทพเจ้าแห่งเมืองกำแพงแสน หรือ หลวงปู่แผ้ว วัดรางหมัน นครปฐม ไม่มีใครในสายบุญ และวงการวัตถุมงคล ที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุมงคลที่ทำพิธีพุทธาภิเษก โดยหลวงปู่ นับวันยิ่งหายาก ซึ่งเมตตาบารมีของหลวงปู่ ทำให้บรรดาลูกศิษย์ลูกหา และบรรดาพุทธศาสนิกชน ต่างหลั่งไหลเข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์ และเฝ้าจับตา หวังได้มีโอกาสกราบเท้าหลวงปู่ให้เป็นบุญบารมีมงคลแก่ตัวเองสักครั้งในชีวิต ส่งผลให้วันนี้ วัดรางหมัน หรือ วัดประชาราษฎร์บำรุง อ.กำแพงแสน นครปฐม แน่นขนัด คึกคักไปด้วยพุทธศาสนิกชนจำนวนมากแทบทุกวัน
ปีนี้ เป็นปีที่ หลวงปู่แผ้ว หรือ พระราชมงคลวชิราคม มีอายุครบ 101 ปี ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความปิติที่ได้มีพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนยาวเป็นร่มโพธิสมภาร ให้แก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหา จึงเป็นโอกาสที่ทุกคนต่างเฝ้ารอที่จะได้รับความเมตตาจากหลวงปู่ให้สร้างวัตถุมงคลเพื่อเป็นที่ระลึกขึ้นในครั้งนี้
และข่าวดีที่สร้างความคึกคักแก่บรรดานักสะสมวัตถุมงคล และลูกศิษย์ลูกหา ก็คือการที่หลวงปู่ได้เมตตาให้ พล.ต.อ วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานจัดสร้าง เหรียญที่ระลึก หลวง ปู่แผ้ว ปวโร อายุครบ 101 ปี รุ่น”อายุยืน”
และที่พิเศษสุด คือการที่ หลวงปู่ ได้เมตตาทำพิธีพุทธาภิเษกเดี่ยว โดยหลวงปู่แผ้ว ได้จุดเทียนชัย พร้อมจุดเทียนมงคล เทียนพุทธาภิเษก เทียนนวหรคุณ เทียนทอง เทียนเงิน และนั่งภาวนาปรกอธิษฐานจิต พร้อมพระสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ชัยมงคลคาถา โดยพระอธิการสมศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดรางหมัน ดับเทียนชัย และประพรมน้ำพระพุทธมนต์แก่สาธุชน บริเวณภายในและภายนอกพระอุโบสถวัดประชาราษฎร์บำรุง ที่วัดรางหมัน เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา นับเป็นวาระโอกาสมงคลที่หาได้ยากอย่างยิ่ง โดย พล.ต.อ.วิสนุ หรือ จเรหิน พร้อมด้วย พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร และข้าราชการตำรวจ ตลอดจนประชาชนผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมาก เข้าร่วมในพิธีด้วย ในการนี้ พล.ต.อ.วิสนุฯ และ ภริยา ยังเป็นประธานยกช่อฟ้าวิหารอายุยืน จำนวน 7 ช่อ ด้วย
สำหรับคุณลักษณะพิเศษของเหรียญ เป็นเหรียญรูปใข่ ไม่เจาะหู เหรียญด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่แผ้วห่มจีวรเฉียง ใบหน้าหลวงพ่อแกะพิมพ์ได้คมลึกดูเหมือนจริงมาก มีข้อความใต้หลวงปู่ว่า “พระราชมงคลวชิราคม (หลวงปู่แผ้ว ปวโร)”
ด้านหลังเหรียญ เป็นสัญลักษณ์เครื่องหมายยศ “พลตำรวจเอก” ประกอบด้วยพระมหาพิชัยมงกุฎดาวแปดแฉก 4 ดวง รับด้วยช่อชัยพฤกษ์ เป็นเครื่องหมายยศชั้นสูงสุด ซึ่ง พล.ต.อ.วิสนุฯ ประธานจัดสร้าง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯพระราชทาน และมีหลังยันต์กลับซึ่งเป็นยันต์ประจำตัวหลวงปู่ และมีข้อความรอบเหรียญว่า “อายุยืน อยู่ดีมีสุข ลาภผลพูลทวี “ วัดรางหมัน นครปฐม
สำหรับเหรียญอายุยืน
มีจำนวนสร้าง เป็นเหรียญอายุยืน ทองคำ จำนวน 25 เหรียญ
เหรียญเงิน จำนวน 555 เหรียญ
เหรียญนวโลหะ จำนวน 1,000 เหรียญ
เหรียญทองฝาบาตร จำนวน 1,000เหรียญ
และเหรียญทองแดง จำนวน 20,000 เหรียญ
ซึ่งเหรียญรุ่นเหรียญอายุยืนนี้ จัดสร้างแล้วจะมอบเป็นที่ระลึกแก่ข้าราชการตำรวจ เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นขวัญกำลังใจ ทั้งข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานจเรตำรวจ และข้าราชการตำรวจทั่วไป
สำหรับประวัติหลวงปู่แผ้ว ขณะนี้ท่านอายุครบ101 เป็นที่รู้จักกันในฐานะ เทพเจ้าแห่งกำแพงแสน
มีนามเดิมว่า แผ้ว บุญวัฒน์ เกิดเมื่อวันพุธที่ 7 พ.ย.2466 ที่หมู่บ้านหลักเมตร ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดหนองปลาไหล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2486 มีพระครูสุกิจธรรมสร (หลวงพ่อสว่าง ธัมมสโร) วัดกำแพงแสน เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อปาน อารักโข วัดหนองปลาไหล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สนั่น วัดหนองปลาไหล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างจริงจัง หมั่นพิจารณาคำสอนอย่างถ่องแท้ ได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะอุทิศกายถวายชีวิตอยู่ในบวรพระพุทธศาสนาตลอดไป ช่วงแรกบวช ท่านอยู่จำพรรษาอยู่ที่วัดหนองปลาไหล เป็นเวลา 1 เดือน จากนั้นจาริกไปจำพรรษาที่วัดหนองม่วง 8 พรรษา มีหน้าที่สอนพระปริยัติธรรมแก่พระภิกษุสงฆ์สามเณรภายในวัด
ต่อมาในปี พ.ศ.2494 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม จำพรรษา อยู่ที่วัดปลักลายไม้ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ในปี พ.ศ.2497 ย้ายไปสอนพระปริยัติธรรม และจำพรรษาที่วัดสว่างชาติประชาบำรุง ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พ.ศ.2502 สนใจศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานอย่างจริงจัง จึงย้ายไปอยู่จำพรรษาที่วัดกำแพงแสน ต.ห้วยหมอนทอง จ.นครปฐม ศึกษาปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคมกับหลวงพ่อหว่าง อย่างมุ่งมั่น จนแตกฉาน
ตลอดเวลา หลวงปู่ได้สร้างคุณูปการสืบสานจรรโลงพระพุทธศาสนา อย่างรอบด้าน อาทิ ปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่างๆ ทั้งในเขตอำเภอกำแพงแสนและพื้นที่ใกล้เคียง ท่านจะอุดหนุนด้วยการสร้างวัตถุมงคลที่ระลึก เพื่อให้ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาได้สมทบทุนปัจจัยนำไปใช้เพื่อการสาธารณประโยชน์
ต่อมา ย้ายมาจำพรรษาที่วัดประชาราษฎร์บำรุง (วัดรางหมัน) อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2551 จนถึง ปัจจุบัน จนล่าสุดเมื่อ พ.ศ.2565 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชมงคลวชิราคม
จึงนับได้ว่าเป็นอีกเหรียญหนึ่งที่น่าจับตาและเป็นที่หมายปองของนักสะสม ในฐานะที่เป็นวัตถุมงคลที่พระเกจิอาจารย์ซึ่งมีอายุกว่า 100 ปี ได้เมตตาทำการปลุกเสกเดี่ยว เป็นปรากฏการณ์มงคลที่หาได้ยากอย่างยิ่ง
Leave a Reply