เทศบาลเมืองเพชรบุรี ทำบุญปิดตำนานบ้านขวางถนนแยกต้นมะม่วง นายกฯพงษ์ ควักเงินส่วนตัว 1.3 ล้าน ให้เป็นค่ารื้อถอนบ้านในที่ดินของผู้อื่น แก้ปัญหาทางคอขวดหลังยืดเยื้อกว่า 30 ปี

เทศบาลเมืองเพชรบุรี ทำบุญปิดตำนานบ้านขวางถนนแยกต้นมะม่วง นายกฯพงษ์ ควักเงินส่วนตัว 1.3 ล้าน ให้เป็นค่ารื้อถอนบ้านในที่ดินของผู้อื่น แก้ปัญหาทางคอขวดหลังยืดเยื้อกว่า 30 ปี
.
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 15 สิงหาคม 2566 เทศบาลเมืองเพชรบุรี นำโดยนายกิตติพงษ์ เทพพานิช นายกเทศมนตรีฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองเพชรบุรี ร่วมจัดงานทำบุญที่บริเวณหัวมุม ถ.ราชดำริห์ทิ ศทางมุ่งหน้าเข้าเมืองเพชรบุรีฝั่งด้านซ้าย ใกล้แยกสัญญาณไฟจราจร เขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี หลังจากแก้ปัญหาบ้านพักอาศัยประชาชนรายหนึ่งที่กีดขวางเส้นทางการจราจรในบริเวณดังกล่าวแคบเป็นคอขวดมานานกว่า 30 ปี ส่งผลให้รถที่สัญจรผ่านบริเวณดังกล่าวเกิดความไม่คล่องตัวโดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วนเกิดปัญหาการจราจรติดขัด และเคยเกิดอุบัติเหตุจากการเบี่ยงเลนจราจรหลายครั้ง
โดยมีนายธนวิทย์ พิทักษ์สิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัทอีซูซุอึ้งง่วนไต้ นางภัทราพร พิทักษ์สิทธิ์ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดฯ เป็นตัวแทน นพ.วิชาญ พิทักษ์สิทธิ์ เจ้าของพื้นที่ มอบพื้นที่เฉพาะส่วนที่กีดขวางให้เป็นพื้นที่ทางสาธารณประโยชน์ โดยมีนายกิตติพงษ์ และคณะเป็นตัวแทนรับมอบ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ส.ส.เพชรบุรี เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ และผู้มีเกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน

.
นายกิตติพงษ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเทศบาลเมืองเพชรบุรี ได้รับเรื่องร้องเรียนถึงความไม่สะดวกของผู้สัญจรผ่านบริเวณนี้และพยายามแก้ปัญหาหลายครั้ง แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์และมีบ้านเรือนตั้งอยู่ ไม่ได้เป็นที่สาธารณะ เทศบาลฯจึงไม่สามารถนำงบประมาณไปดำเนินการได้ แต่ตนเห็นว่าเป็นความเดือดร้อนของประชาชนและเป็นปัญหาต่อเนื่องในการพัฒนาพื้นที่ จึงมอบหมายให้นายเกื้อกูล ไชยพยอม ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรีประสานไปยัง นพ.วิชาญ พิทักษ์สิทธิ์ เจ้าของพื้นที่ ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์มอบพื้นที่เฉพาะส่วนที่กีดขวางให้เป็นพื้นที่ทางสาธารณประโยชน์เพื่อให้เทศบาลดำเนินการปรับปรุง แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวที่มีส่วนล้ำเข้าไปยังแนวถนน กว้างประมาณ 80 ตารางวา มีประชาชนเข้าไปปลูกบ้านพักอาศัยมานานหลายสิบปีในลักษณะครอบครองปรปักษ์ในที่ดินของบริษัทอึ้งง่วนไต๋ฯสร้างเป็นบ้านชั้นเดียวจำนวน 2 หลัง มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 8-9 คน การรื้อถอนจึงไม่สามารถทำได้ทันที ตนจึงเข้าไปขอความร่วมมือกับเจ้าของบ้านดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าของบ้านทั้ง 2 หลังขอค่ารื้อถอน 1,700,000-1,800,000 บาท และมีการต่อรองเหลือ 1.300,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่เอกชน เทศบาลฯ ไม่สามารถนำงบประมาณของราชการไปดำเนินการได้เพราะไม่มีระเบียบการเบิกจ่ายเงินรองรับ ตนจึงปรึกษานางจำลอง เทพพานิช ผู้เป็นมารดาและครอบครัว ตกลงนำเงินส่วนตัวของตนมอบให้กับเจ้าของบ้านที่อยู่อาศัยบริเวณดังกล่าวเพื่อให้รื้อถอนออกจากพื้นที่ โดยตกลงกันที่เงินจำนวน 1,300,000 บาท ขณะนี้ตนได้ชำระเงินให้ไปแล้วบางส่วนเพื่อให้เจ้าของบ้านนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการหาที่อยู่ใหม่ และเทศบาลฯ ได้เริ่มทำการรื้อถอนเพื่อปรับพื้นที่แล้ว จากนั้นเมื่อรื้อถอนปรับพื้นที่เสร็จจะมีพิธีทำบุญในพื้นที่ดังกล่าวและจะนำการปรับปรุงพื้นที่เข้าแผนพัฒนาของเทศบาลเมืองเพชรบุรีเพื่อดำเนินการปรับขยายพื้นผิวการจราจรให้ประชาชนได้สัญจรโดยสะดวกต่อไป
.

“ปัญหานี้สะสมยืดเยื้อ และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนตลอดจนผู้ใช้รถใช้ถนนในพื้นที่ดังกล่าวมานาน ผมในฐานะผู้บริหารต้องการให้เทศบาลเมืองเพชรบุรีมีการพัฒนา จึงพยายามหาข้อมูลและแนวทางแก้ปัญหากับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมานานกว่า 1 ปี แต่พบว่าหาทางออกได้ยากทั้งทางข้อกฎหมายและระเบียบราชการจึงได้ตัดสินใจใช้เงินส่วนตัวหากการเสียเงินส่วนตัวเพื่อปรับสภาพถนนให้คนทั่วไปได้สัญจรอย่างสะดวก ตนก็ถือว่าคุ้มค่ามากกับการดำเนินการในครั้งนี้และขอขอบคุณนพ.วิชาญ พิทักษ์สิทธิ์ ที่เห็นแก่ประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและได้อนุเคราะห์มอบพื้นที่เพื่อให้เทศบาลฯ เข้าจัดการจนสามารถสะสางปัญหาที่ค้างคามายาวนานหลายสิบปีนี้จนสำเร็จลุล่วงไปได้” นายกิตติพงษ์กล่าว.