เก๋งชนสาวใหญ่ อายุ 65 ปี ดับคาถนน แล้วชิ่งหนี ย่านประชาอุทิศ ( มีภาพกล้องวงจรปิด )

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 05.20 น.

พันตำรวจตรี ประยูร วิทยา สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนคนเดินเท้าบริเวณหน้าปากซอย ประชาอุทิศ ซอย 9 และในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย มีอาการสาหัสหมดสติอยู่ภายในที่เกิดเหตุ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าปากซอยประชาอุทิศ ซอย 9 ถนน ประชาอุทิศ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร และในที่เกิดเหตุพบร่างหญิงอายุ 65 ปี ซึ่งทราบชื่อต่อมาชื่อ นางสาว ณัฐวดี อยู่ในสภาพนอนหงายหน้าหมดสติอยู่บนพื้นถนนสัญญาณชีพอ่อน อาสาสมัครจึงเร่งให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยการทำ CPR ทันที แล้วรีบประสานต่อไปยังหน่วยกู้ชีพในระบบการแพทย์ฉุกเฉินเอราวัณให้รีบเร่งมาสนับสนุนที่เกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่ในระบบการแพทย์ฉุกเฉินเอราวัณมาถึงได้จัดเตรียมอุปกรณ์เร่งให้การช่วยเหลือและได้ทำการ CPR อย่างต่อเนื่องอย่างสุดกำลังความสามารถแล้วแต่ไม่เป็นผลจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา

การแต่งกายของผู้เสียชีวิตสวมใส่เสื้อเชิตแขนสั้นลายดอกไม้หลากสี สวมใส่กางเกงยีนส์ขาสามส่วน สวมถุงเท้าสีน้ำเงิน รองเท้าแตะแบบสวมสีน้ำเงิน มีบาดแผลถลอกหลายแห่งตามร่างกาย แขนข้างขวาหักผิดรูปอย่างเห็นได้ชัดเจน ใกล้กับร่างผู้เสียชีวิตพบกระเป๋าสะพายลายสีขาวดำตกอยู่ 1 ใบ และพบกำไลหยก 1 วงในลักษณะแตกหักอยู่ แล้วที่สำคัญยังพบกับโลโก้ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้าตกอยู่ใกล้ๆกับร่างของผู้เสียชีวิตอีกด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการบันทึกภาพภายในที่เกิดเหตุเอาไว้เป็นหลักฐานและประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชให้มาตรวจสอบสภาพร่างผู้เสียชีวิตภายในที่เกิดเหตุ

และจากการสอบถาม นางสาว วิริยดา อายุ 48 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า อาม่ากำลังจะข้ามถนนเพราะว่าเขาเช่าตึกอยู่ภายในซอยประชาอุทิศซอยที่ 7 แล้วก็รถน่าจะมาเร็วมาแรงแล้วก็พุ่งชนแกแล้วก็กระเด็นมาถึงปากซอยประชาอุทิศซอย 9 ตอนแรกตนก็คิดว่าน่าจะขับมอเตอร์ไซค์แต่ก็มองหาไม่มีมอเตอร์ไซค์ก็เลยเอออ่าวคนนี่หน่าเห็นรถด้วยแล้วเราก็โบกตอนแรกเห็นเขาชะลอนึกว่าจะจอดเราก็เออจอดใช่ไหมเราก็วิ่งไปดูคนเจ็บหันมาอีกทีเขาหนีไปแล้วเป็นรถเก๋งข้างหน้ายุบจำทะเบียนไม่ได้เพราะตอนแรกนึกว่าจะจอดก็เลยไม่จำไม่คิดว่าจะหนีไป

และจากการสอบถาม นาย เอ้ อายุ 42 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่าตนเองเห็นอาม่า มาข้ามถนนตรงปากซอยประชาอุทิศซอย 7 ทุกเช้า พอมาวันนี้รถเก๋งวิ่งมาด้วยความเร็วแล้วก็พุ่งชนร่างของอาม่ากระเด็นลอยขึ้นมาต่อหน้าต่อตาเลยกระเด็นไปถึงปากซอย 9 ตนเองก็โบกรถเก๋งให้จอดเห็นว่าชิดซ้ายแล้วก็นึกว่าจะจอดแต่ไม่จอดกลับเป็นว่าขับหนีไปเลยเป็นรถเก๋งโตโยต้าสีเทา จำทะเบียนไม่ได้

เบื่องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุแล้วพบว่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันที่ก่อเหตุเป็นรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบทะเบียน พอชนอาม่าเสร็จแล้วก็ชะลอรถชิดขอบฟุตบาทด้านซ้ายเหมือนทำท่าทำทางว่าจะจอดแต่กลับไม่จอดแล้วรีบเหยียบคันเร่งหนีไปอย่างไวมุ่งหน้าหนีไปทางแยกนาหลวงหายไปกับความมืดโดยไม่ลงรถมาดูดำดูดีอะไร ไม่ให้การช่วยเหลือคนเจ็บเบื้องตนเลย แล้วแบบนี้จิตสำนึกความรับผิดชอบไม่มีเลยใช่หรือไม่

เบื้องต้นแพทย์นิติเวชพร้อมเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบสภาพร่างผู้เสียชีวิตแล้วในที่เกิดเหตุจึงมอบหมายให้อาสาสมัครนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และจะติดตามให้ญาติมารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป และจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบอีกครั้งเพื่อที่จะติดตามผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวมาดำการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป