ปาเจโร่คันเร่งค้าง หลุดโค้งชนกำแพง เคราะห์ยังดี หนุ่มใหญวัย 65 ปี แค่เจ็บเล็กน้อย ย่าน พุทธบูชา
วันที่ 4 เมษายน 2567 เวลา 15.35 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคลพุ่งชนกำแพงบ้านเรือนประชาชน บริเวณโค้งสวนธน และภายในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร. ) เขตราษฎร์บูรณะ เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดบริเวณโค้งสวนธนบุรีรมย์ ถนน พุทธบูชา แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะถนน 4 เลน ทิศทางมาจากวัดพุทธบูชา มุ่งหน้าไปทางแยกนาหลวง พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต สีบลอนด์เงิน ทะเบียน 8 กฐ 5888 กรุงเทพมหานคร อยู่ในสภาพพุ่งชนเข้าไปภายในกำแพงของโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร (อาทร สังขะวัฒนะ) เลขที่ 462 ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร จนรถติดคากำแพงอยู่ทั้งรถทั้งกำแพงรั้วโรงเรียนฝึกอาชีพได้รับความเสียหายทั้งคู่ และภายในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเป็นชาย 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว ทราบชื่อผู้ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลต่อมาชื่อ นาย วิชัย อายุ 65 ปี อาสาสมัครให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำตัวส่งโรงพยาบาลบางประกอก 1 อย่างเร่งด่วนทันที
และจากการสอบถาม นาย วิชัย ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบอกเล่าว่า ตนขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวมาจากทางวัดพุทธบูชาแล้วกำลังจะมุ่งหน้าไปทางถนนประชาอุทิศ แล้วเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นข่วงบริเวณทางโค้งตนพยายามที่จะผ่อนคันเร่งแต่แล้วมันเกิดค้างตนก็เลยตัดสอนใจเหยียบเบรคแต่ว่าเบรคกลับจมก็เลยเบรคไม่ได้แล้วคันเร่งก็ยังค้างอยู่ทีนี้ตนก็พยายามประคองรถแล้วก็เลยพุ่งเข้ากำแพงรั้วของโรงเรียน
ส่วนทางด้าน นาง ปุณยนุช อายุ 48 ปี กล่าวว่า ตนไดเยินเสียงดังโครมก็ยังคิดว่าเป็นรถสิบล้อหรือยังงัยพอมาดูก็เห็นควันโขมตนก็เลยรีบวิ่งไปบอก รปภ. กับผู้บริหารโรงเรียนให้มาดู ตอนเกิดเหตุตนนั่งอยู่ห่างกำแพงไม่ถึง 50 เมตร ตนก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวได้ต้องรอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการดีขึ้นหรือพอที่จะให้การได้จึงจะเชิญตัวมาสอบถามเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ส่วนเรื่องค่าเสียหายต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบความเสียหายของทรัพย์สินของโรงเรียนก่อนถึงจะสรุปยอดความเสียหายได้ ถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
Leave a Reply