สกู๊ปพิเศษ….เที่ยวป่าหน้าฝน !! ยลสิ่งมหัศจรรย์ !! เพิ่มสีสันแห่งชีวิต ที่จ.อุบลราชธานี

สกู๊ปพิเศษ….เที่ยวป่าหน้าฝน !! ยลสิ่งมหัศจรรย์ !! เพิ่มสีสันแห่งชีวิต ที่จ.อุบลราชธานี

หน้าฝน หรือ ฤดูฝน หลายคนอาจมองว่าไม่น่าเที่ยวเหมือนฤดูอื่น บ้างก็บอกว่า การเดินทางไม่สะดวก บ้างก็บอกว่า หน้าฝนการเดินทางอันตราย แต่ในทางกลับกัน ฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับผู้มีใจรักในธรรมชาติและผืนป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล เพราะการเที่ยวในฤดูฝนนอกจากผู้คนไม่มากแล้ว เรายังมีโอกาสได้ชื่นชมธรรมชาติ ทั้งน้ำตกน้อยใหญ่ที่หลั่งไหลเป็นสายธารทั้งขนาดเล็กและน้ำตกที่กว้างใหญ่เสียงดังกึกก้องทั่วราวป่า ต้นไม้ก็กลับคืนเป็นสีเขียวขจี ผืนดินปกคลุมด้วยหญ้าที่เป็นสีเขียวสวยงาม และดอกไม้ป่านานาชนิด ต่างพากันออกดอกอย่างสมบูรณ์ นี่คือ เสน่ห์ของผืนป่า ในหน้าฝน ที่คนรักธรรมชาติชื่นชอบและประทับใจ

จังหวัดอุบลราชธานี เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีผืนป่าอุดมสมบรูณ์ มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม มีน้ำตกงามหลายแห่งที่แวดล้อมไปด้วยสีเขียวสดของต้นไม้ เหมาะกับที่คนรักธรรมชาติ ควรไปสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง สิ่งมหัศจรรย์และความงามทางธรรมชาติ ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี มีดังนี้

น้ำตกแสงจันทร์ หรือ น้ำตกลงรู เป็นน้ำตกลงรูหนึ่งเดียวในเมืองไทย ตั้งอยู่บ้านทุ่งนาเมือง ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม น้ำตกแสงจันทร์หรือ น้ำตกลงรู เรียกตามลักษณะของสายน้ำที่ตกผ่านลงรูหิน ซึ่งรูหิน เกิดจากการถูกน้ำกัดเซาะเนื่องจากหินทรายทนตอการถูกกัดกร่อนน้อย กำเนิดของน้ำตกแสงจันทร์จึงเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ลงตัวของ หินทรายและสายน้ำ นานวันเข้าหลุมก็ทะลุกลายเป็นรูกระแสน้ำที่ไหลลงหลุมก็เปลี่ยนมาไหลลง กลายเป็น น้ำตกลงรูในที่สุด ส่วนที่มาของชื่อน้ำตกแสงจันทร์นั้น เรียกตามสายธารน้ำตก ที่โปรยละอองผ่านช่องหินลงมาเป็นสีขาวนวลคล้ายแสงจันทร์โดยเฉพาะในวันเพ็ญ ที่แสงจันทร์จะสาดส่องมาตรงรูหินพอดี พร้อมกับละอองของธารน้ำตกที่โปรย ดูเป็นประกายสีนวลสวยงามมาก ซึ่งทั้งหมดนี้คือที่มาของชื่อและเสน่ห์ของน้ำตกแห่งนี้ ที่ยังคงเก็บความงามสงบประสานอย่างกลมเกลือนของธรรมชาติไว้ให้เป็นที่ประทับใจ

การเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยว น้ำตกลงรู จากอำเภอเมืองจังหวัดอุบลราชธานี เดินทางไปน้ำตกแสงจันทร์ หรือน้ำตกลงรู ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เดินทางออกจากตัวเมือง ใช้เส้นทางหมายเลข 4005 ระยะทางประมาณ 32 กิโลเมตร จากนั้นใช้เส้นทางหลายเลข 2222 อีกระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปใช้เส้นทางหมายเลข 4008 ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ต่อด้วยเส้นทางหลายเลข 2134 และ 2279 ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร วิ่งเข้าสู่เส้นทางหมายเลข 2135 ระยะทางประมาณ 32 กิโลเมตร ต่อด้วยเส้นทางหมายเลย 3262 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร เดินทางไปตามเส้นทางอีกประมาณ 15 กิโลเมตรก่อนจะเข้าสู่น้ำตกแสงจันทร์ หรือน้ำตกลงรู

น้ำตกสร้อยสวรรค์ อยู่ในเขตอำเภอโขงเจียม ภายในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2112 ห่างจากอำเภอโขงเจียมประมาณ 30 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลจากหน้าผาสูงชันสองด้าน ซึ่งเกิดจากลำห้วยสร้อยและลำแซไผ่ ตกลงมาบรรจบกันคล้ายสายสร้อย ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง สูงประมาณ 20 เมตร มีน้ำไหลตลอดปี เป็นน้ำตกที่มีคนนิยมไปเที่ยวกันมาก นอกจากนี้ บริเวณน้ำตกยังมีต้นไม้และดอกไม้ป่า ช่วยเสริมบรรยากาศความงามของน้ำตกแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทิวทัศน์แม่น้ำโขง ผืนป่าและหน้าผาหินฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน ฤดูที่น่าเที่ยวควรจะเป็นหลังฤดูฝนใหม่ๆ เพราะจะมีน้ำมาก

น้ำตกสร้อยสวรรค์ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สูงประมาณ 30 เมตร เกิดจากลำน้ำห้วยสร้อยและแซไผ ไหลตกจากยอดเขาแล้วไหลมาบรรจบกัน มองดูลักษณะคล้ายสายสร้อยจึงได้ชื่อว่า น้ำตกสร้อยสวรรค์ ตัวน้ำตกตั้งอยู่ห่างจากจุดชมภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ผาแต้มประมาณ 15 กิโลเมตร ควรเดินทางมาเที่ยวโดยรถยนต์ส่วนตัวหรือมากับคณะทัวร์จะสะดวกกว่า เมื่อมาถึงจุดตรวจบริเวณน้ำตกสร้อยสวรรค์จะต้องจอดรถเอาไว้ภายในบริเวณที่กำหนด แล้วเดินเท้าต่ออีกประมาณ 500 เมตร ผ่านถนนลาดยางที่โอบล้อมไปด้วยดงไผ่ทึบสองข้างทางและลงบันไดซึ่งรายรอบไปด้วยหมู่แมกไม้สีเขียวขจีสู่ตัวน้ำตก

อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอบุณฑริก อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและสาธารณรัฐประชาธิปไตยกัมพูชา พื้นที่ป่าอยู่ในส่วนหนึ่งของเทือกเขาพนมดงรัก ประกอบด้วยภูเขาเล็กภูเขาน้อยมากมาย เช่น ภูจองนายอย ภูจองน้ำซับ ภูจอง ภูจันทร์แดง ภูพลานสูง ภูพลานยาว เป็นต้น มีสภาพป่าสมบูรณ์ สภาพธรรมชาติที่สวยงามและมีสัตว์ป่าชุกชุม มีเนื้อที่ประมาณ 686 ตร.กม. ส่วนใหญ่บริเวณป่าภูจอง-นายอย จะเป็นเทือกเขาแหล่งต้นน้ำของลำน้ำลำห้วยที่สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าเบญพรรณ ป่าเต็งรัง มีพันธ์ไม้ขึ้นอยู่หนาแน่นและอุดมสมบูรณ์ ส่วนมากดินจะเป็นดินลูกรังปะปนหินปูน ตามบริเวณที่ราบบนเนินเขา และประกอบด้วยลานหินลักษณะต่างๆ ตลอดจนหน้าผา เช่น ผาผึ้ง ที่อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่นพลาญป่าชาด มีลักษณะเป็นลานหินสลับด้วยทุ่งดอกไม้นานาชนิด ที่ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เช่น มณีเทวา ดุสิตา สรัสจันทร เป็นต้น ในช่วงต้นฤดูฝนดอกกระเจียวจะผลิดอกเบ่งบานเต็มท้องทุ่ง ที่มาของชื่อ “พลาญป่าชาด” บริเวณกลางป่าจะมีลำธารซึ่งสร้างความชุ่มชื้น และเป็นจุดกำเนิดของน้ำตก “พลาญป่าชาด” นับเป็นเส้นทางเดินป่าที่เต็มไปด้วยพันธุ์ดอกไม้และพืชพันธุ์หลากหลายชนิด

น้ำตกบักเตวหรือน้ำตกห้วยหลวง อยู่ที่ อุทยานแห่งชาติภูจอง-นายอย ซึ่งน้ำตกบักเตวหรือน้ำตกห้วยหลวง นี้ ตั้งอยู่กลางป่าสมบูรณ์ไหลตกจากหน้าผาสูง 45 เมตร ถือได้ว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุด และงดงามที่สุดของภาคอีสานตอนล่าง ไหลตกจากหน้าผาสูงชัน ลงสู่แอ่งน้ำใหญ่ และลานหินหาดทราย ด้านล่างมีบันไดทางลงจากศาลาชมทิวทัศน์สู่น้ำตกด้านล่าง ห่างออกไป 100 เมตร ยังมีน้ำตกกประโอนลออ ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดเล็กที่สวยงาม มีแอ่งน้ำที่เหมาะสำหรับลงเล่นและนวดตัวด้วยสายน้ำ

อุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีพื้นที่ราว 340 ตารางกิโลเมตร มีเนื้อที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดอุบลราชธานี เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศไทย สามารถรับชมพระอาทิตย์ขึ้นได้เป็นจุดแรกของประเทศไทย อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี จุดที่น่าสนใจคือภาพเขียนสียุคก่อนประวัติศาสตร์ผาแต้ม และจุดชมพระอาทิตย์แสงแรกแห่งสยาม เป็นอุทยานที่มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่านานาชนิด มีจุดเด่นที่สวยงามตามธรรมชาติมากมาย เช่น ผาชัน น้ำตกสร้อยสวรรค์ เสาเฉลียง ถ้ำปาฏิหารย์ ภูนาทาม เป็นต้น อีกทั้งยังได้มีการค้นพบภาพเขียนสีโบราณ สมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 3,000-4,000 ปี ที่บริเวณผาขาม ผาแต้ม ผาเจ็ก ผาเมย และถือได้ว่าเป็นอุทยานแห่งชาติ แห่งแรกในประเทศไทยที่มีแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นเส้นกั้นพรมแดน ระหว่างประเทศไทย และประเทศลาวเป็นแนวเขตอุทยานแห่งชาติที่ยาวที่สุด ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ป่าเขา ทางฝั่งประเทศลาวได้เป็นอย่างดี

ที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ยังมี เสาเฉลียงคู่ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ สายลมและแสงแดดมีลักษณะเป็นแท่งหินตั้งขึ้น มีส่วนบนเป็นแผ่นหินวางอยู่โดยไม่ติดกัน มองดูคล้ายดอกเห็ด อุทยานแห่งชาติมีเสาเฉลียงให้ชม 2 จุด จุดที่ชมได้ง่ายอยู่ก่อนถึงผาแต้ม 1 กิโลเมตร กับเสาเฉลียงที่ต้องเดินทางขึ้นเหนือไปทางบ้านผาชันอีกราว 70 กิโลเมตร และยังมี ถ้ำปาฏิหาริย์ มีลักษณะเด่นคือแบ่งเป็นหลืบเป็นห้องและมีความยาวมาก ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่ออีกแห่งภายในอุทยานนี้ได้แก่ ผาชนะได ซึ่งเป็นป่าสนสองใบตามธรรมชาติที่ขึ้นอยู่บริเวณหน้าผา เมื่อมองทะลุป่าสนสองใบจะเห็นภูเขาทะมึนสลับซับซ้อนของประเทศลาว เป็นฉากอยู่ข้างหลังตัดกับท้องฟ้าที่อยู่ด้านบนและลำน้ำโขงที่อยู่ด้านข้าง เป็นจุดพยากรณ์ดวงอาทิตย์ขึ้น ของกรมอุตุนิยมวิทยา

น้ำตกทุ่งนาเมือง และเถาวัลย์ยักษ์ เป็นความเก่าแก่ของธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นนาน 400 ปี อยู่ติดกับทางลงชมน้ำตกทุ่งนาเมือง เป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวควรได้สัมผัสเมื่อมาเที่ยวผาแต้ม และที่ผาแต้มยังมีหาดวิจิตรา ซึ่งเป็นชายหาดที่ทอดยาวยื่นออกไปสู่กลางลำน้ำโขงเป็นหาดทรายสีดำ มีพื้นที่ที่สวยงามในยามเช้า และช่วงเวลาตะวันตกจะมองเห็นวิวเกาะ บวกกับแสงตะวันกระทบพื้นน้ำกลางลำน้ำโขง ในช่วงฤดูหนาว ถึงฤดูร้อนจะมีความสวยงามน่าชม อีกแห่งที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดในการเที่ยวชมเมื่อมาผาแต้ม ได้แก่ หินโยกมหัศจรรย์ เป็นหินขนาดใหญ่หนักขนาด 50 ตัน และนักท่องเที่ยวสามารถโยกได้ด้วยมือเดียว ซึ่งอยู่ในเขตหมู่บ้านคันท่าเกวียน อำเภอนาโพธิ์กลาง ตำบลห้วยไผ่ อ.โขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี

อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี สภาพพื้นที่โดยทั่วไป เป็นที่ราบสูง เป็นเขาเตี้ยๆ มีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่านตามแนวเขตทางด้านทิศเหนือ ไปออกประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว บริเวณแก่งตะนะจะมีสายน้ำที่เชี่ยวและลึก อีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง จึงทำให้มีปลาอาศัยอยู่ชุกชุม ตรงกลางมีโขดหินขนาดใหญ่เป็นเกาะกลาง มีเนื้อที่ประมาณ 80 ตารางกิโลเมตร หรือ 50,000 ไร่ และที่แก่งตะนะแห่งนี้ยังมี น้ำตกตาดโตน ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามไม่แพ้ที่อื่น เกิดจากลำห้วยตาดโตน ตกจากชั้นหินแนวโค้งลงสู่ที่ลุ่ม เกิดเป็นแอ่งน้ำ ด้านบนเป็นพลาญหินกว้าง มีน้ำไหลผ่าน เหมาะแก่การลงเล่นน้ำและนั่งพักผ่อน เพราะบริเวณโดยรอบเป็นป่าไม้ร่มรื่น และมีพรรณไม้หลายชนิดให้ศึกษา โดยเฉพาะช่วงปลายฤดูฝน

ล่องเรือ ในแม่น้ำโขง ดูสองฝั่งไทยลาว เป็น อีกกิจกรรมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้ประทับใจเมื่อไปเที่ยวเมืองอุบลฯในหน้าฝน ซึ่งการล่องเรือในแม่น้ำโขง เพื่อดูสองฝั่งไทยลาว ชมแม่น้ำสองสี ล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวลุ่มแม่น้ำโขงและสำรวจธรรมชาติสองฝั่งไทย – ลาว โดยมีเส้นทางล่องเรือคือ บ้านกุ่ม – บ้านท่าล้ง และ บ้านกุ่ม – แม่น้ำสองสี และ บ้านกุ่ม – แก่งตะนะ

ทั้งหมดนี้คือ แหล่งท่องเที่ยวและสิ่งมหัศจรรย์ ทางธรรมชาติในหน้าฝน ถือเป็นมนต์เสน่ห์ของจังหวัดอุบลราชธานี ที่พี่น้องชาวอุบลฯ อยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวไปสัมผัสธรรมชาติอันงดงามในผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี ดังนั้น หน้าฝนปีนี้ อย่าลืม ไปเที่ยวอุบลฯ กันเด้อ..!! รับรองว่า เมื่อไปแล้วท่านจะประทับใจไม่รู้ลืม..!!

กิตติภณ เรืองแสน / อุบลราชธานี / รายงาน.

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link