ชนแล้วหนีตำรวจดับกลางสะพานลอยข้ามแยก ย่านถนน รัชดา ท่าพระ

ชนแล้วหนีตำรวจดับกลางสะพานลอยข้ามแยก ย่านถนน รัชดา ท่าพระวันที่ 29 ต.ค.63 เวลา 23.00 น. ร.ต.อ.สุรพล พรมผุ๋ย รอง สว.(สอบสวน) สน.ตลาดพลู ได้รับแจ้งมีเหตุรถชนกัน บนสะพานข้ามแยก ก่อนถึงทางลงถนนรัชดาท่าพระ เป็นรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบคู่กรณี มีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูเมื่อเจ้าหน้าที่ และ อาสาสมัครไปถึงที่เกิดเหตุ บริเวณใกล้เคียงเบี่ยงทางลงสะพานข้ามแยก ทางลงรัชดาท่าพระ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี จังหวัด กรุงเทพมหานคร พบผู้บาดเจ็บนอนหมดสติ มีเลือดไหลออกเป็นจำนวนมาก อาสาจึงรีบเร่งจัดอุปกรณ์ช่วยเหลือทำการ CPR อย่างเร่งด่วนระหว่างนั้น ได้ประสานรถกู้ชีพตากสิน มาสนับสนุนที่เกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ชีพ มาถึง จึงเร่งใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือแต่ผู้บาดเจ็บไม่มีสัณญาณชีพแล้ว จึงเสียชีวิตก่อนที่อาสาและ กู้ชีพมาถึง ทราบต่อมาว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ ร้อยตำรวจตรี ตำแหน่งรอง สว.สอบสวน ของสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง สวมใส่เสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาว ห่างออกไปพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นแอร์ล๊อค สีเหลืองคาดน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีร่องรอยที่ฝาครอบท่อไอเสียถูกเฉี่ยวชนจนเห็นได้ชัดเจนฟังจากคำบอกเล่าของผู้ที่ผ่านไปมา บอกว่า “รถจักรยานยนต์ คันดังกล่าวได้เกิดเหตุเฉี่ยวชนกับรถแท๊กซี่สีฟ้าเหลือง แต่ไม่ได้ทันเห็นป้ายทะเบียน และ รถแท๊กซี่ ก็ไม่ได้จอดรถลงมาดูผู้เสียชีวิตเลย ได้ขับเร่งเครื่องหลบหนีไปเลย”ส่วนเบื้องต้น แพทย์นิติเวช สันนิษฐานการเสียชีวิต จากการถูกชน และ กระเด็นตกลงมาศีรษะกระแทกพื้นอย่างรุนแรง ทำให้มีแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่ที่ศีรษะและ ใบหน้า มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก จนทนพิษบาดแผลไม่ไหว จึงทำให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงมอบให้อาสานำเข้า สน.ตลาดพลูเบื้องต้นก่อนเพื่อบันทึกลายพิมพ์ลายนิ้วมือ แล้วส่งไปชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช แล้วจะติดต่อญาติให้มารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไปในวันรุ่งขึ้น ส่วนคู่กรณี จะเร่งติดตามจากกล้องวงจรปิด ละแวกใกล้เคียงที่เกิดเหตุ หรือ ประชาชนรถคันไหนได้มีกล้องหน้ารถ และ บันทึกภาพตอนเกิดเหตุไว้ได้ สามารถ ไปแจ้งเบาะแสของรถคู่กรณีได้ที่ สน.ตลาดพลู เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปทีมข่าวฝั่งธน