วันที่ 4 ธันวาคม 2563 เวลา 21.00 น. ร.ต.ท.สกลชัย ศรีรัตน์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ท่าพระ ได้รับแจ้งมีผู้บาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืน จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วจัดกำลังพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รีบรุดจัดกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาสาสมัครไปถึงที่เกิดเหตุเป็นลักษณะร้านขายก๊วยเตี๋ยวหน้าปากซอย จรัญสนิทวงศ์ ถนน จรัญสนิทวงศ์ แขวง วัดท่าพระ เขต บางกอกใหญ่ จังหวัด กรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบภายในที่เกิดเหตุแล้วพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณภายในร้านดังกล่าว อาสาจึงรีบรุดจัดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเข้าช่วยเหลือเป็นการด่วน แต่ทว่าอาการของผู้บาดเจ็บค่อนข้างที่จะสาหัส จึงเร่งประสานหน่วยกู้ชีพเอราวัณ มาสมทบในที่เกิดเหตุทันที ระหว่างรอหน่วยแพทย์ฉุกเฉินอยู่นั้นอาสาสมัครก็พยายามทำ CPR ในที่เกิดเหตุเพื่อยื้อชีวิตของผู้บาดเจ็บเอาไว้ให้ได้ ไม่นานต่อมาหน่วยแพทย์ฉุกเฉินกู้ชีพเอราวัณก็มาถึงในที่เกิดเหตุแล้วเร่งรีบระดมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเข้าช่วยเหลือเป็นการด่วน
นาทีชีวิตที่หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน และอาสาสมัครให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่และเต็มความสามารถแต่ก็ไม่อาจจะยื้อชีวิตของผู้บาดเจ็บรายนี้เอาไว้ได้เหตุเพราะทนพิษบาดเเผลของคมกระสุนที่ถูกยิงเข้าใต้ราวนม และ ส่วนอื่นๆอีกหลายที่เป็นจำนวนถึง 4 นัด ผู้บาดเจ็บทนอาการเจ็บปวดไม่ไหวแล้วเสียเลือดเยอะมากจึงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิต ชื่อนาย อาทิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี จึงประสานต่อไปทางนิติเวช รพ.ศิริราช เพื่อมาชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิต ผู้เสียชีวิต สวมใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีดำแดง กางเกงขายาวสีดำ
จากการสอบถาม แม่ยายของผู้เสียชีวิต ชื่อ นาง จรัญ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี เล่าว่า “คนถูกยิงไม่ได้มีเรื่องกะใคร ไปทำงานทุกวัน เช้าไปเย็นกลับ ทำงานเป็นวิศวะ ดูแลคุมงานสร้างบ้าน เราก็อุ้มลูกเค้าอยู่ แล้วเค้าก็เดินเข้าข้างใน ก็ออกมานั่งก็เล่นโทรศัพท์ นั่งกันอยู่หลายคน มี พ่อตา ตน ลูกตัวน้อย และภรรยาเค้า สักพักก็มีผู้ชายรูปร่างสูงประมาณ 160 ซม. นั่งซ้อนท้ายรถมอไซค์ ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน มาจอดที่หน้าร้าน ก่อนจะเดินเข้ามาในร้าน โดยไม่พูดจาอะไรเลย จากนั่นก็ชักปืนยิงมาที่ลูกเขยตน ซึ่งนั่งกันหลัง ประมาณ 3-4 นัด พ่อตาเค้าได้ยินเสียงปืน ก็ร้อง เฮ้ยๆๆ คนยิงก็วิ่งขึ้นรถมอไซค์ออกไปซ้อนมอไซค์ที่จอดรออยู่แล้วขี่หลบหนีไปทางแยกท่าพระเลย”
เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานการเสียชีวิตจากการถูกกระสุนอาวุธปืน ยิงที่หน้าอก ซึ่งเป็นจุดสำคัญ ทำให้ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตทันที แต่อย่างไรแล้วต้องส่งมอบให้อาสาสมัครนำส่งสถาบันนิติเวช ก่อนจะให้ญาติมารับกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบหาติดตามคนร้ายจากพยานแวดล้อม และจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
โชติกา ม่วงใจรักษ์ / นายณัชพล แซ่โซ / นายสมพร้อม เนินงาม ผู้สื่อข่าว กทม.
Leave a Reply