สมุทรสาคร ผวจ.สมุทรสาครชี้ยอดผู้ป่วยโควิดยิ่งตรวจเข้มยิ่งต้องเจอเพิ่ม วอนประชาชนอย่าตกใจใช้ชีวิตไม่ประมาท การ์ดไม่ตก ตั้งเป้าตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงกว่า 10,000 คน

สมุทรสาคร
ผวจ.สมุทรสาครชี้ยอดผู้ป่วยโควิดยิ่งตรวจเข้มยิ่งต้องเจอเพิ่ม วอนประชาชนอย่าตกใจใช้ชีวิตไม่ประมาท การ์ดไม่ตก ตั้งเป้าตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงกว่า 10,000 คนเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 19 ธันวาคม 2563 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด – 19 ที่เกิดขึ้นในจังหวัดสมุทรสาครครั้งนี้ ซึ่งหากดูยอดผู้ป่วยล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 19 ธันวาคม 2563 แล้วพบว่ามีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นมาเป็น 13 คนแล้ว โดยเป็นยอดที่มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่วันแรกพบ 1 คน วันต่อมาพบ 6 คน วันนี้พบอีก 6 คน ก็เชื่อมั่นได้ว่าจะต้องมีเพิ่มมากขึ้นกว่านี้แน่นอน แต่จะมีมากขึ้นไปอีกเท่าไหร่นั้น ยังไม่สามารถบอกจำนวนได้ เนื่องจากต้องรอผลยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 5 จังหวัดสมุทรสงคราม หลังจากที่ได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งไปทำการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 รวมถึงผู้ที่เข้าไปตรวจยังสถานบริการทางการแพทย์ที่อื่นอีกด้วย ซึ่งหากเราได้ผลการตรวจที่ยืนยันชัดเจนแล้ว ทีมควบคุมโรคก็จะเข้าไปทำงานได้เร็ว และสามารถควบคุมพื้นที่การระบาดของโรคได้ง่ายขึ้น โดย ณ วันนี้ทางทีมสอบสวนโรคต้องทำงานแข่งกับเวลาด้วยการค้นหาผู้ป่วยในกลุ่มเสี่ยงให้ออกมาแสดงตัวและเข้ารับการตรวจรักษาให้ได้มากที่สุด ส่วนทีมควบคุมโรคก็ต้องเร่งทำงานในการป้องกันการแพร่ระบาด ไม่ให้ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น ทุกฝ่ายต้องเร่งทำงานกันอย่างเต็มที่ ดังนั้นในเวลานี้จึงไม่อยากให้มุ่งปมไปที่เรื่องของการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ลักลอบเข้ามา หรือผู้ให้ที่พักพิงแก่แรงงานต่างด้าว หรือเหตุอื่นๆ แต่อยากให้มองไปที่การคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด หากใช้กฎหมายแล้วทำให้กลุ่มเสี่ยงต้องหลบหนีซ่อนตัว เราก็จะไม่มีโอกาสเจอผู้ป่วยแล้วนำออกมาเข้าสู่กระบวนการรักษา แต่ถ้าเราใช้วิธีตรวจคัดกรองเป็นสำคัญ ก็จะได้ตัวผู้ป่วยออกมารักษาและควบคุมโรคได้
นายวีระศักดิ์ฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการค้นหาต้นตอของผู้ที่แพร่เชื้อไวรัสโควิดในครั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากคนไทย หรือแรงงานต่างด้าว ซึ่งทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนโรค ขอให้ทีมทำงานได้ทำงานก่อน หากเร่งรัดเกินไปก็จะได้ข้อมูลที่ไม่ชัดเจน ดังนั้นช้าแต่ชัวร์น่าจะดีกว่าเร็วแต่ไม่รอบคอบ เช่นเดียวกันกับเรื่องของไทม์ไลน์ที่หลายคนอยากรู้ และอยากให้เปิดเผยออกมานั้น เมื่อเรามีกระบวนการสอบสวนโรคและคัดกรองโรคอย่างเข้มข้นมากขึ้น การค้นพบผู้ป่วยต้องมีมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นไทม์ไลน์จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะทำได้ช้าลง เพราะยิ่งมากก็ยิ่งช้า ซึ่งไทม์ไลน์แต่ละคนนั้นจะต้องทำออกมาอย่างละเอียดและสมบูรณ์ที่สุด ส่วนเรื่องของมาตรการหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครนั้น เรายังคงมาตรการสำคัญคือ การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน หากใครไม่สวมจะต้องถูกจับปรับ 20,000 บาท ตามประกาศที่เคยออกมาแล้วยังไม่เลิกใช้ , การใช้เจลหรือแอลกอฮอล์ล้างมือ,การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย,เว้นระยะห่างทางสังคม และการใช้แอพพลิเคชั่นไทยชนะ นอกจากนี้ยังได้ออกมาตรการห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้าหรือออกนอกพื้นที่ และงดการทำงานบางส่วนที่เกี่ยวกับการรวมกันของกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ส่วนแรงงานไทยสามารถเดินทางได้ตามปกติ
ขณะที่นายแพทย์ธรรมวิทย์ เกื้อกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระทุ่มแบน กล่าวอีกว่า ด้านการตรวจคัดกรองโรคเพื่อหาผู้ติดเชื้อโควิด 19 นั้น ทางกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ จังหวัดสมุทรสาคร จากเดิมที่เคยตั้งเป้าไว้ว่า จะตรวจแรงงานต่างด้าวที่พักอาศัยหรือทำงานอยู่ในตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาครราวๆ 2,000 คน กับผู้ที่อยู่ใกล้เคียงตลาดกลางกุ้งฯ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าวอีกกว่า 2,000 คน รวมทั้งหมดแล้วไม่ต่ำกว่า 4,000 คน ซึ่งต้องตรวจให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์นั้น หลังจากที่จังหวัดสมุทรสาครได้รับรถพระราชทาน 2 คัน กับ รถที่มีอยู่แล้วอีก 2 คัน รวมทั้งหมด 4 คัน บวกกับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องของอุปกรณ์เครื่องมือตรวจหาเชื้อโควิดฯ และบุคลากรผู้ปฏิบัติงานนั้น ก็เห็นสมควรว่า จะต้องมีการขยายกลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนกว่า 10,000 คน เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ใกล้เคียงกับตลาดกลางกุ้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน .
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า จากการที่เราทำการคัดกรองมากขึ้น โอกาสที่เราจะพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อก็จะเพิ่มมากขึ้นตามอัตราการคัดกรองของเรา ทั้งนี้จึงไม่อยากให้พี่น้องตื่นตระหนก ว่ายอดจังหวัดสมุทรสาคร ของเรามีผู้ติดเชื้อมากขึ้นทุกวัน เพราะการที่เราคัดกรองเพิ่มมากขึ้นโอกาสที่จะพบผู้ติดเชื้อก็เพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็เป็นสิ่งดีที่เคยบอกไว้แล้วว่า การพบผู้ป่วยจากการคัดกรองเราก็สามารถเข้าไปควบคุม ป้องกันได้อย่างรวดเร็ว โอกาสที่จะแพร่กระจายไปในวงกว้างก็จะน้อยลง ส่วนเรื่องของการล๊อคดาวน์จังหวัดสมุทรสาคร กับการปิดสถานศึกษา และการงดจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมากนั้น ในขณะนี้ ณ วันที่ 19 ธันวาคม 2563 ยังไม่มีคำสั่งให้ล๊อคดาวน์จังหวัดสมุทรสาคร ไม่มีคำสั่งให้ปิดสถานศึกษา และไม่มีคำสั่งให้งดกิจกรรมหรืองานรื่นเริงใดๆ ทั้งสิ้น ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่หลังจากนี้ไปจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวัน จึงขอให้ทุกคนติดตามประกาศของจังหวัดสมุทรสาคร อย่าได้หลงเชื่อข่าวลวงหรือเฟคนิวส์แต่อย่างใดทั้งสิ้น และท้ายสุดยังฝากบอกถึงพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาครให้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง อย่ากลัวโควิดจนไม่ยอมออกไปใช้สิทธิ์ที่ตนเองพึงมี แต่การใช้สิทธิ์คราวนี้ขอให้มีทั้งบัตรประชาชน และมีทั้งหน้ากากอนามัย เข้าคูหากากบาทเลือกสมาชิกสภา และนายก อบจ.สมุทรสาคร