ไฟไหม้บ้านสองตายายกลางดึก วอดทั้งหลัง

ไฟไหม้บ้านสองตายายกลางดึก วอดทั้งหลัง
วันนี้ ( 20 ธ.ค.63 ) เวลาประมาณ 00.30 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนราษฎร ที่บ้านเลขที่ 14/3 ม.1 ต.กลางใหญ่ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ซึ่งเป็นบ้านของ นางสมใจ พลพวก อายุ 61 ปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงนำรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลบ้านกอกและอบต.ค้อทอง เข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากเป็นเวลากลางดึก มีลมพัดแรง ประกอบกับสภาพบ้านเป็นบ้านไม้เก่าทั้งหลังและชั้นล่างเป็นที่เก็บข้าวเปลือก และวัสดุไม้เก่า การดับเพลิงและควบคุมเพลิงจึงเป็นไปด้วยความลำบาก จนท.ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ และเพลิงได้สงบลงในเวลา 05.00 น. สำหรับความเสียหายในเบื้องต้น พบว่า บ้านหลังดังกล่าว ได้รับความเสียหายหมดทั้งหลัง โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต อีกทั้งบ้านเรือนใกล้เคียงก็ไม่ได้รับความเสียหาย ส่วนสาเหตุที่แท้จริงในการเกิดอัคคีภัยในครั้งนี้ต้องรอพิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบเสียก่อน
ทั้งนี้ นางสมใจ พลพวก บอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วยสามี ได้พากันนอนหลับอยู่ในบ้าน และในเวลา ประมาณ 00.30 น. ได้รู้สึกตัวตื่น และได้ยินเสียงดังมาจากปลั๊กไฟในบ้าน จากนั้นได้กลิ่นเหม็นไหม้ และพบว่า เกิดเหตุไฟไหม้บ้าน จึงพากัน รีบหนีออกมาจากตัวบ้านแล้วตะโกนบอกเพื่อนบ้านให้มาช่วยดับไฟ พร้อมกับโทร.แจ้งหน่วยดับเพลิงทต.บ้านกอก ให้มาช่วยดับไฟ แต่ในที่สุดบ้านก็ถูกไฟไหม้จนวอดไปทั้งหลัง พร้อมกับของเก่าที่ตนกับสามีไปตระเวนหาเก็บมาไว้ในบ้านชั้นล่าง เพื่อเตรียมคัดแยกออไปขาย และ ข้าวเปลือก ที่อยู่ในบ้าน ก็ถูกไฟไหม้จนเสียหายทั้งหมด รถจักรยานยนต์พ่วงก็ถูกไฟไหม้เสียหายเช่นกัน
ล่าสุด ในช่วงสายวันเดียวกันนี้ (20ธ.ค.63) นายสันติพงษ์ สมศรี นายอำเภอเขื่องใน จ.อุบลราชธานี ได้มอบหมายให้นายชัยวัฒน์ สีจันชัย ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำน้ำดื่ม ยาสามัญประจำบ้าน ชุดเครื่องนอน ผ้าห่ม มอบให้กับนางสมใจ พลพวก ผู้ประสบภัย และได้แจ้งผญบ.ม.1 ต.กลางใหญ่ อ.เขื่องใน จ.อุบลฯ นำจิตอาสาของหมู่บ้านตั้งโต๊ะรับบริจาคเพื่อให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น และประสาน อบต.กลางใหญ่ให้ความช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่ และได้รายงานเหตุด่วนให้จังหวัดอุบลราชธานีทราบ เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบราชการต่อไป และเบื้องต้นนี้ได้ให้นางสมใจ พลพวกและสามี เข้าพักอาศัยที่หอประชุมร.ร.บ้านกลางใหญ่เป็นการชั่วคราวไปก่อน และในโอกาสเดียวกันนี้ ได้มีชาวบ้านมาร่วมบริจาคข้าวและสิ่งของให้แก่สองสามีภรรยาที่ประสบอัคคีภัยในครั้งนี้ด้วย