เขตหลักสี่ติดตามอาการ มอบถุงยังชีพกลุ่มเสี่ยงสูงในชุมชนรอบแคมป์ก่อสร้าง

นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ กทม. กล่าวกรณีสื่อออนไลน์เสนอข่าวชุมชนมิตรประชาพัฒนาที่อยู่ใกล้กับแคมป์ก่อสร้างเขตหลักสี่ พบคนในครอบครัวเดียวกัน จำนวน 7 ราย ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว และต้องกลับมากักตัวต่อที่บ้าน โดยระบุไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐและกรุงเทพมหานครในระหว่างกักตัวว่า ที่ผ่านมาสำนักงานเขตหลักสี่ได้ให้ความช่วยเหลือดูแลผู้พักอาศัยในบ้านเลขที่ 4/1 ชุมชนมิตรประชาพัฒนา ซึ่งมีผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุและเด็ก จำนวน 17 คน รวมถึงประชาชนในชุมชนมิตรประชาพัฒนาที่อยู่ระหว่างกักตัว โดยแจกถุงยังชีพพระราชทาน และถุงยังชีพจากหน่วยงานต่าง ๆ อีกทั้งได้ส่งมอบอาหารกล่อง น้ำดื่ม ขนม นม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป (แพมเพิส) และอุปกรณ์ในการป้องกันตนเองจากโควิด-19 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงกักตัว ขณะเดียวกันยังได้ลงพื้นที่สอบถามและติดตามอาการ แนะนำการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล ดูแลความเป็นอยู่ของกลุ่มเสี่ยงสูงและผู้ที่กักตัวอย่างสม่ำเสมอ โดยพบว่ามีผู้ต้องการความช่วยเหลือเนื่องจากตกงาน และต้องการงานที่สามารถรับมาทำที่บ้านได้ จึงมอบหมายฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคมดูแลให้ความช่วยเหลือต่อไป

นอกจากนั้น สำนักงานเขตฯ ยังได้จัดให้มีการตรวจคัดกรองเชิงรุก (swab) ในแคมป์คนงานก่อสร้างในพื้นที่ จำนวน 13 แห่ง เพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคสู่ชุมชน ตลอดจนมอบหมายเจ้าหน้าที่ติดตามอาการของผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงสูงที่กักตัวในชุมชนรอบแคมป์คนงานก่อสร้าง รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างต่อเนื่องทุกชุมชน เพื่อให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งยังจัดสรรและส่งมอบอาหารแห้ง สิ่งของจำเป็น รวมถึงหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ล้างมือที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ ได้รณรงค์ขอความร่วมมือชุมชนที่อยู่โดยรอบแคมป์คนงานก่อสร้าง ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ให้ดูแลรักษาความสะอาด งดการพบปะสังสรรค์ รวมถึงการรับประทานอาหารและน้ำดื่มร่วมกัน หมั่นทำความสะอาดพื้นผิวบริเวณจุดสัมผัสร่วม และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันสุขอนามัยส่วนบุคคล (D-M-H-T-T-A) อย่างเคร่งครัด