เมื่อชีวิตสัตว์ต้องมาสังเวยพิธีการในวัด ตามที่สังคมโซเซียลมีเดียแชร์เรื่อง เรื่องน่ารันทดใจ เมื่อเทศบาลเมืองแห่งหนึ่งร่วมกับพระในวัดจัดการจับหมาวัดมากกว่า 25 ตัว

เมื่อชีวิตสัตว์ต้องมาสังเวยพิธีการในวัด
ตามที่สังคมโซเซียลมีเดียแชร์เรื่อง เรื่องน่ารันทดใจ เมื่อเทศบาลเมืองแห่งหนึ่งร่วมกับพระในวัดจัดการจับหมาวัดมากกว่า 25 ตัว เพื่อเคลียร์พื้นที่ต้อนรับบุคคลสำคัญ โดยเลือกการใช้การยิงยาสลบในสัตว์และย้ายสัตว์ออกนอกพื้นที่วัด ส่งผลให้มีหมาตายเพราะยาสลบ 2 ตัวทันที และหมาที่ยังสลบสะลึมสะลือถูกหิ้วนำไปทิ้งบ่อขยะอีกนับ 20 กว่าตัวนั้น
ดร.สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) ได้แสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่า เรื่องนี้ถ้าดูจากข่าวที่แชร์กันในสังคมโซเซียลมีเดีย ก็น่าเห็นใจแก่สัตว์ร่วมโลกมาก และบ่อยครั้งผู้รับผิดชอบการจัดงานมักจะแก้ปัญหาด้วยการกำจัดสัตว์ออกจากพื้นที่ ดังเช่นในอดีตในหลายกรณีที่ผ่านมา แต่ในกรณีดังกล่าวก็ต้องขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ละเอียดอีกครั้ง
ซึ่งถ้าในแง่กฎหมายนั้น เคยมีมติมหาเถรสมาคมฯ ที่สำคัญ 2 เรื่อง คือ
1.กำหนดเขตอภัยทานในพื้นที่วัด พ.ศ.2538 ข้อ 4 การกำหนดเขตอภัยทานขึ้นไว้ โดยความมุ่งหมายเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์บก สัตว์น้ำ ตลอดถึงปักษีทวิชาติที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย ได้อาศัยด้วยความร่มเย็นเป็นสุขปราศจากการถูกเบียดเบียน หรือรบกวนด้วยประการใดๆ ดังนั้น วัดจึงมีเขตอภัยทาน (animal sanctuary) ซึ่งเป็นเขตที่ห้ามผู้ใดกระทำ อันมุ่งหมายแก่การทำร้ายทำลายชีวิตสัตว์ อันเป็นการกระทำความผิดศีลธรรมเพื่อให้สัตว์ได้อาศัยด้วยความร่มเย็นเป็นสุขปราศจากการถูกเบียดเบียน

2. มติที่ 410/2561 เรื่อง การจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการปล่อยสัตว์ในวัด โดยออกหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติ 3 ข้อ ดังนี้ 1 ให้กำหนดพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามเจ้าของสัตว์ นำสัตว์มาปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร 2.ให้กำหนดเขตพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามซื้อขายหรือการทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าชีวิตสัตว์ภายในเขตวัด 3.ให้วัดต่าง ๆ ถือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ และ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า โดยเคร่งครัด โดยมติดังกล่าวทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีหนังสือ เลขที่ พศ.0006/09315 เรื่อง ขอส่งมติมหาเถรสมาคม แจ้งให้เจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัดทราบและถือปฏิบัติตามมติ
อาจกล่าวได้ว่า จากมติมหาเถรสมาคมดังกล่าว วัดนั้นจึงเป็นพื้นที่เขตอภัยทาน สัตว์ที่อยู่ในวัดจะอาศัยอยู่ได้ด้วยความร่มเย็นเป็นสุขปราศจาการเบียดเบียน แต่เจ้าของสัตว์นั้นก็ไม่ควรนำสัตว์ของตนมาปล่อย ละทิ้ง ในพื้นที่วัดโดยไม่มีเหตุอันควร เพราะปัจจุบันมีกฎหมายกำหนดความรับผิดแล้ว และในพื้นที่วัดไม่ควรมีการค้าขายชีวิตสัตว์อันเป็นการกระทำผิดศีลธรรมในวัดอีกด้วย

สำหรับกรณี พระในวัดจัดการจับสุนัขมากกว่า 25 ตัว ด้วยการเลือกการใช้การยิงยาสลบในสัตว์และย้ายสัตว์ออกนอกพื้นที่วัด ส่งผลให้มีสุนัขตายเพราะยาสลบ 2 ตัว ดังกล่าวนั้น เรื่องดังกล่าวก็ต้องอาศัยข้อเท็จจริงประกอบพยานหลักฐาน ถึงการกระทำนั้นว่าเป็นการกระทำที่มีความจำเป็นหรือไม่ในการจัดการเกี่ยวกับสุนัขในวัดและวิธีการจัดการนั้น สมควรแก่การจัดการเพื่อป้องกันการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควรและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ที่เหมาะสม ตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดหรือไม่อย่างไร
ดังนั้น ปัจจุบันการดูแลสัตว์แม้จะอยู่ในวัดก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนที่ต้องใสใจในรายละเอียด การปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรม ด้วยการทารุณกรรมอย่างไม่มีเหตุอันสมควรกับสัตว์นั้น ก็ควรลดน้อยถอยลงไปโดยเฉพาะในพื้นที่วัดอันเป็นพื้นที่เขตอภัยทาน ก็ยิ่งควรใช้ความระมัดระวัง แม้สุนัขเหล่านั้นจะมาอาศัยแต่ก็ควรปฏิบัติอย่างเหมาะสม และสำหรับผู้เลี้ยงสัตว์ก็ควรมีความรับผิดชอบ ในตัวสัตว์นั้น ไม่ปล่อย ละทิ้งให้สัตว์เหล่านั้นตกเป็นภาระรับผิดชอบต่อผู้อื่นเช่นกัน สังคมจึงจะอยู่ได้อย่างปกติสุขต่อไป

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link