ตามข่าวมติชนออนไลน์ ประจำวันศุกร์ที่ ๖ ส.ค. ๖๔ ภูมิภาค ลงข่าวว่า “ญาติคาใจหนุ่มถูกตร.ขี่จยย.ไล่บี้จนชนรั้วดับ ๑ สาหัส ๑ แถมไม่ยอมแจ้งจนท.” นั้น
สื่อ-สร้าง-สาร ภ.๓ ขอชี้แจงว่า เมื่อวันที่ ๒ ส.ค. ๖๔ เวลาประมาณ ๒๓.๔๐ น. ขณะที่ตำรวจสายตรวจของ สภ.เมืองอุบลราชธานี ขับขี่รถจักรยานยนต์ตรวจตราดูแลความสงบเรียบร้อยพบนายบัณฑิต ศรีหาวงศ์ ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยมีนายสายันต์ ไชยบุตร ซ้อนท้าย (ทราบชื่อนามสกุลภายหลัง) ทันทีทันใดนั้นเมื่อนายบัณฑิตฯเห็นตำรวจสายตรวจก็ได้ขับขี่เร่งความเร็วของรถย้อนศรหลบหนีเข้าไปภายในซอยห้วยคุ้ม ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานีฯ ตำรวจขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามไป เมื่อตำรวจสายตรวจขับรถห่างจากรถของนายบัณฑิตฯประมาณ ๓๐๐ ม. รถของนายบัณฑิตฯก็ขาดหายไปเนื่องจากนายบัณฑิตฯขับขี่รถหลบหนีด้วยความเร็ว มีซอยย่อยมากและเป็นเส้นทางโค้ง ไฟฟ้าส่องสว่างตามถนนในซอยเห็นไม่ชัดเจน ตำรวจจึงต้องขับขี่อย่างระมัดระวังเพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ จึงทำให้รถของนายบัณฑิตฯขับขี่หลบหนีขาดหายจากการติดตามของตำรวจไปได้ เมื่อตำรวจสายตรวจแน่ใจว่าตามรถของนายบัณฑิตฯไม่ทันแล้วจึงได้เลิกติดตามและกลับรถขับขี่รถออกจากซอยซึ่งตำรวจสายตรวจยืนยันว่าไม่เห็นและไม่ทราบว่านายบัณฑิตฯขับรถหนีไปทางใดมาทราบภายหลังว่านายบัณฑิตฯขับรถเสียหลักเแหกโค้งชนกำแพงบ้านข้างทางเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บและนายสายันต์ฯ เสียชีวิตซึ่งในโอกาสแรกถ้าเห็นและทราบว่านายบัณฑิตฯขับรถเสียหลักแหกโค้งไปชนกำแพงบ้านข้างทางก็ไม่เป็นการยากลำบากแต่อย่างใดที่จะเข้าช่วยเหลือและแจ้งเหตุให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบซึ่งเป็นปกติวิสัยที่ตำรวจสายตรวจเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุประสบภัยต่างๆและแจ้งเหตุให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อเข้าช่วยเหลือเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว
จากการสอบถามผู้พักอาศัยอยู่ใกล้กับจุดที่เกิดเหตุนายบัณฑิตฯขับรถเสียหลักชนกำแพงบ้านจนตนเองได้รับบาดเจ็บ นายสายันต์ฯที่ซ้อนท้ายมาด้วยเสียชีวิต ได้ความว่า ขณะเกิดเหตุตนเองอยู่ที่บ้านพักได้ยินเสียงรถชนกำแพงก็ได้ออกจากบ้านมาดูและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเห็นผู้เสียชีวิตจึงได้แจ้งเหตุ ขณะที่ได้ยินเสียงรถชนกำแพงก็ไม่เห็นมีรถอื่นๆติดตามรถของนายบัณฑิตฯมาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามตำรวจภูธรภาค ๓ จะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเน้นย้ำให้เจ้าพนักงานตำรวจทุกนายปฏิบัติและทำหน้าที่ตามจริยธรรมตำรวจโดยเคร่งครัดมิให้เกิดข้อบกพร่องโดยเด็ดขาด
Leave a Reply