โจ๊กหวานเจี๊ยบ ขอไม้ต่อ โจ้ ถุงดำกำลังฮอต นั้นขอส่งต่อเรื่องอีกหนึ่ง ให้สื่อสังคม ช่วยตรวจสอบด้วย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ฝาก พิทักษ์ 1 โปรดช่วยตรวจสอบและดูแลด้วยเจ้าค่ะ
เห็นว่าวันนี้มีการประชุม กตร. ซึ่งตำรวจผู้นี้กำลังจะเสนอเชื่อถูกเลื่อนยศ Admin ได้รับข้อความจากน้องคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบต่อครอบครัว จากพฤติกรรมตำรวจรายนี้มาบอกเล่าผ่าน Page
“ไม่รู้ว่าเราควรจะแปลกใจ หรือทำใจให้ชินดี กับการเรื่องที่ตำรวจแย่ ๆ มักจะเจริญในหน้าที่การงานอยู่เสมอ
.
โพสต์นี้ เราเพียงแค่อยากจะขอระบาย เพราะครอบครัวเราไม่เคยจะอยู่เป็นสุข ทั้งโดนระราน โดนข่มขู่ และโดนฟ้องร้องโดยใช้หลักฐานปลอมมากลั่นแกล้งกัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของผู้รักษากฎหมายคนหนึ่ง ที่ในอนาคต เขากำลังจะได้ขึ้นมามีหน้ามีตา เป็นถึงผู้ช่วย ผบ.ตร. ค่ะ
.
แล้วถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ๆ ครอบครัวเราจะมีวันได้อยู่อย่างสงบสุขอีกไหมคะ?
.
เหตุการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้ ไม่ได้อยากจะแฉ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานแล้ว ตั้งแต่ช่วงปี 54 เขามีเรื่องฟ้องร้องกับลุงเราที่เป็นตำรวจยศใหญ่ อักษรย่อ ก. ซึ่งทุกคนสามารถไปหาข่าวดูได้ และการที่เราออกมาพูดครั้งนี้ เราเพียงแค่อยากชวนทุกคนมาตั้งคำถามว่าตำรวจท่านนี้ ควรจะได้รับโอกาสเสนอชื่อเข้าเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือไม่
.
เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 2554 ตอนนั้น พล.ต.ท. ตัวอักษรย่อ ส หรือ ที่เรารู้จักกันว่า บิ๊ก จ. ได้เป็นผู้กำกับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เขาโดนร้องเรียนเรื่องรับส่วยคาราโอเกะที่นครพนม ในสมัยที่พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เป็น ผบ.ตร ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการ ที่เมื่อมีการร้องเรียน ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนทางวินัย ว่ารับส่วยจริงหรือไม่ เหตุการณ์ที่ถูกกล่าวหาเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า แต่กลายเป็นว่า เขาร้อนตัว! มาฟ้องท่านผบ.ตร. กับพวก และใช่ค่ะ รวมทั้งคุณลุงของเรา
.
บิ๊ก จ. ฟ้องศาลว่าท่าน ผบ.ตร. และพวก ไปตั้งคณะกรรมการกลั่นแกล้งเขา ซึ่งต่อมาในปี 2556-2557 ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ก็ยกฟ้องทุกคน เพราะศาลสรุปว่าไม่มีใครไปกลั่นแกล้งเขา ทุกคนเขาทำตามกระบวนการ ทำตามกฎระเบียบ มีแต่ บิ๊ก จ. ที่ร้อนตัวและเล่นใหญ่ไปคนเดียว แบบนี้เขาเรียกว่าอะไรคะ เรียกว่ากลัวความผิด กลัวถูกจับได้หรือเปล่า
.
แต่เรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นจากผู้รักษาบ้านเมืองที่สุด คือ การสร้างหลักฐานเท็จค่ะ เพราะหลังจากศาลยกฟ้อง คุณลุงของเราก็ได้ไปขออนุญาตศาลตรวจสอบหลักฐานที่ บิ๊ก จ. เอามาฟ้องคุณลุง ปรากฏว่ามีหลักฐานบางอย่างเป็นเท็จ คุณลุงเราเลยรวบรวมหลักฐานเท็จทั้งหมดมาฟ้องกลับ ซึ่งศาลก็รับฟ้อง บิ๊ก จ. ตกเป็นจำเลย แต่สุดท้ายเขาก็ได้ประกันตัวในชั้นศาลไป
.
การที่คุณลุงเราพิสูจน์ตัวเอง และต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มันกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ครอบครัวเราโดนกัดไม่ปล่อย เพราะตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปี 2563 คุณลุงของเราก็ถูกสั่งย้ายไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และโดนสั่งย้ายไปที่อื่น ๆ อีกในทุกปี ไม่สามารถเติบโตในหน้าที่การงานใด ๆ ได้เลย และครอบครัวของเรา ทั้งคุณลุงและคุณป้าก็ต้องหวาดระแวงกับการตามราวีของเขามาโดยตลอด
.
จากเรื่องที่เกิดขึ้น ครอบครัวเราก็ได้แต่คิดว่าเมื่อไหร่กรรมจะตามสนองเขาสักที แต่ดูจากเรื่องที่เขากำลังจะได้ถูกเสนอชื่อเข้าเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. ก็คงคิดแล้วค่ะว่า เวรกรรมมันไม่ทำงานกับคนไม่ดี
.
ทั้งหมดที่เราพูดมานี้ ครอบครัวเราหวาดระแวงและอดทนกันมามากแล้ว เราเพียงแค่อยากจะขอให้ผู้มีอำนาจช่วยพิจารณาด้วยค่ะ ว่าการที่คุณจะเสนอชื่อให้คนแบบนี้เข้ามาเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. มันสมควรแล้วหรือไม่ อยากให้ช่วยดูการกระทำที่ผ่านมาของคน ๆ นี้หน่อยเถอะค่ะ ว่าเขาไปทำอะไรกับใครไว้บ้าง เพราะเราเชื่อว่าไม่ใช่แค่ครอบครัวเราที่ต้องมาเดือดร้อนเพราะนิสัยแย่ ๆ ของเขา และยิ่งกว่านั้น ถ้าคนแบบนี้ได้ขึ้นมาเป็นใหญ่เป็นโต ตำรวจชั้นผู้น้อยก็คงได้อยู่ไม่สุขกันแน่ค่ะ
.
เราอยากให้ทุกคนช่วยกันแชร์ เพื่อเป็นเสียงสะท้อนไปถึงผู้มีอำนาจว่า ถ้าคุณอยากจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับวงการสีกากี คุณก็ต้องหยุดให้ความสำคัญกับคนแบบนี้ได้แล้วค่ะ
.
เราขอแค่เพียงสักครั้ง ที่ความยุติธรรมจะเกิดขึ้นจริงในประเทศนี้สักทีค่ะ”
…. พฤติกรรม คนแบบนี้หรอที่ควรปรับตำแหน่ง ฝากท่าน ผบตร. คิดทบทวนใหม่ด้วยค่ะ
Leave a Reply