ภูเก็ต พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาลที่ปรึกษาสบ.9 ติดตาม “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” พร้อมลงพื้นที่หารือกับภาคเอกชน

ภูเก็ต พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาลที่ปรึกษาสบ.9 ติดตาม “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” พร้อมลงพื้นที่หารือกับภาคเอกชน

วันนี้ (26 สิงหาคม 2564) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ อาคารศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ 9) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมกับจังหวัดภูเก็ต ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าและปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ต่อไป เพื่อเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป ซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับการประชุมในวันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ลงมาในพื้นที่เพื่อติดตามข้อสั่งการของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ได้สั่งการไว้ในคราวที่ลงมาทำคดีล่าสุด เพราะฉะนั้นสิ่งที่เน้นย้ำมากวันนี้ คือเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นทางอากาศ ทางรถ ทางเรือ บุคคลที่มีหมายจับต้องเข้าภูเก็ตไม่ได้ ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นำเทคโนโลยีมาใช้กับทั้งด่านท่าฉัตรไชย ช่องทางสนามบิน ขาเข้า ขาออก ภายในประเทศ และต่างประเทศ และในส่วนของท่าเรือ ปัจจุบันมีท่าเรือหลักอยู่ 9 ท่า ที่อนุญาตให้คนเข้า ออก เพราะฉะนั้นในส่วนของท่าเรืออีก 26 ท่า ซึ่งเป็นท่าเรือที่เราไม่อนุญาตให้คนเข้าและออก วันนี้ตนได้ให้กำลังของทั้งในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และตำรวจท่องเที่ยว บูรณาการร่วมกันในการให้มีเจ้าภาพทั้ง 26 ท่าเรือ และให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่คอยดูกล้องวงจรปิดอยู่ทุกห้วงเวลา เพื่อที่จะป้องกันการลักลอบเข้ามาในพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ของจังหวัดภูเก็ต
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้กำหนดให้สถานที่ท่องเที่ยวมี 3 ลักษณะ คือสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเสี่ยงสูง ความเสี่ยงปานกลาง และความเสี่ยงน้อย เพราะฉะนั้นในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งหมด 126 แห่ง ขณะนี้ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ได้สั่งการให้จัดทำแบบฟอร์มในการเช็คลิสทุกพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทุกระดับ สถานที่ท่องเที่ยวใดที่ไม่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง เสี่ยงปานกลาง เสี่ยงน้อย เหล่านี้ ตนได้สั่งการในที่ประชุมให้ตำรวจท่องเที่ยวกับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ประสานให้มีเจ้าภาพทุกที่ในการดูแล โดยการบูรณาการกันกับท้องถิ่น เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมีน้อย เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือภาคประชาชน จะต้องช่วยกันเข้ามาดูแล

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อไป ว่าวันนี้เราเน้นมาตรการการป้องกันเพิ่มขึ้นทั้งหมด เพื่อสร้างความปลอดภัย ความเชื่อมั่นที่จะรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาจำนวนมากในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้ เพราะขณะนี้คณะกรรมการวิชาการตามพ.ร.บ.โรคติดต่อได้เห็นชอบแล้วในการที่จะให้นักท่องเที่ยวที่ฉัดวีคซีนสปุ๊กนิก สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้ เพราะฉะนั้น ในเดือนพฤศจิกายน นักท่องเที่ยวที่เดินทางจากรัสเซีย ก็จะเข้ามามากขึ้น เชื่อมั่นว่าสถานการณ์ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จะมีแต่ดีขึ้น
ส่วนในเรื่องของยอดนักท่องเที่ยว ตั้งแต่เปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มา มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้วกว่า 24,000 คน มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่ติดโควิดประมาณ 70 กว่าคน ซึ่งคิดเป็นอัตราเฉลี่ยประมาณ 0.2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าน้อยมาก ที่สำคัญกว่านั้นคือทำให้เกิดความมั่นใจต่อคนในพื้นที่ภูเก็ต คือนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไม่ได้เอาเชื้อโควิดมาแพร่กับคนในพื้นที่เลยแม้แต่คนเดียว เพราะฉะนั้นนี้คือมาตรการที่สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เอาอยู่ ส่วนสถานการณ์ภายในที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากเป็นการติดกันในพื้นที่ ซึ่งทางสาธารณสุขได้ดำเนินการในการตรวจคัดกรองเชิงรุกนำผู้ติดเชื้อแยกออกจากผู้ไม่ติดเชื้อ ยิ่งแยกคนติดเชื้อกับคนไม่ติดเชื้อออกจากกัน ก็จะทำให้เราสามารถควบคุมโรคได้มากขึ้น ก่อนที่จะนำไปสู่การฉีดวัคซีนเข็ม 3

หลังจากนั้นทางพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ย่านเมืองเก่าภูเก็ตเพื่อพูดคุยกับผู้นำชุมชนและได้เดินทางต่อไปยังโรงแรมกะตะธานีเพื่อพูดคุยกับตัวแทนภาคเอกชนในการขับเคลื่อนโครงการภูเก็ตแซนต์บ๊อกให้เดินหน้าต่อไป