เมื่อวันที่ 7 เม.ย.65
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟสบุ๊ค ชื่อ Pakpisit Saykrasoon โพสต์เรื่องราวเตือนภัยเหล่าเทรนเนอร์ด้วยกัน เพื่อเป็นอุทาหรณ์เมื่อรับงานเทรนให้ลูกค้าที่บ้าน ให้ระวังตัว โดยระบุว่า โพสต์นี้จะสรุปเรื่องโดนวางยานะครับ #เตือนภัยเทรนเนอร์โดนวางยา มีคนติดต่อเทรนเข้ามาใหม่ ย่านพุทธบูชา
ซึ่งเทรนกันทั้งหมด 3 ครั้ง / 2 ครั้งแรกเทรนที่ฟิตเนสของโรงแรมย่านสีลม ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ผมค่อนข้างเซฟตัวเองไม่ดื่มน้ำที่ลูกค้าให้ บวกกับลูกค้าอายุ 50 กว่าแล้วไม่น่าจะทำอะไรเราได้ นอกจากการวางยา คือ 50 กว่าแบบไม่ดูแลตัวเอง แรงน้อยๆ ไม่ใช่ 50 กว่าแบบออกกำลังกาย พอนึกภาพออกไหม สภาพความแข็งแรงมันจะต่างกันมาก
ล่าสุดเทรนกันครั้งที่ 3 (ต้องบอกก่อนว่าปกติผมคิดเป็นคอร์ส 10 ครั้งขึ้นไป แต่ลูกค้าใหม่สามารถเทรนเป็นรายครั้งได้ 3 ครั้ง คือจ่ายเงินเป็นรายครั้งก่อน คิดว่าเทรนโอเคค่อยซื้อเป็นคอร์ส) เขาคงคิดว่ามีโอกาสครั้งสุดท้ายจะเอาให้ได้ เพราะนอกสถานที่แบบนี้ เดินทางไกลจากย่านลาดพร้าวไปพุทธบูชา ผมจะคิดค่าน้ำมัน 1,000 บาท ค่าเทรน ชม. 2,000 บาท เทรนได้ถึง 2 ชม. สรุปยอดเทรนแล้วตกครั้งละ 3,000 บาท
พอไปถึงเขาก็วางขวดน้ำผลไม้ไว้ให้ผมดื่ม ซึ่งผมก็เห็นว่ามันมีพลาสติกครอบฝาอยู่ แต่มันดูไม่ค่อยสมบูรณ์ พอแกะพลาสติกออก แล้วบิดฝามันไม่มีเสียงแก๊กจากการเปิดฝา ทำให้ผมไม่กล้ากิน แค่ทำเป็นยกดื่ม พอหลังเทรนเสร็จผมก็ได้หยิบน้ำติดมือมาด้วย
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจากพฤติกรรมต่างๆ ที่รู้สึกว่าคนเทรนคนนี้แปลกๆ กลับถึงบ้านผมเลยลองดื่มดู ดื่มไปแค่ครึ่งขวด ผ่านไป 15 นาทีอาการเหมือนคนเมา โลกส่ายไปมา พอก้มตัวก็ล้มฟุบไปเลย เหมือนคนเมาลุกไม่ไหว
แล้วได้ไลน์หาแฟนว่าโดนวางยา แล้วเราก็เผลอหลับคามือถือไป โดยที่ไม่รู้ตัวอีกเลย คิดว่าตัวเองแข็งแรงนะ แต่เจอแบบนี้ไป หลับไป 2 วันติดเลย (24 ชม.) หมอยังบอกน่าจะโดนหนักปกติ 2-3 ชม. ก็ฟื้น แนะนำให้ไปโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อตรวจหาสารในเลือด
ปกติบ้านลูกค้าที่เรียกไปเทรนถึงในบ้าน บ้านจะหลังค่อนข้างใหญ่มากๆ และมีห้องฟิตเนสเฉพาะ แต่บ้านลูกค้าคนนี้หลังเล็กๆ แถมการแต่งตัวก็ไม่ค่อยเหมาะสม เราเลยสงสัยไว้ก่อน และระวังตัวเป็นพิเศษ คือไม่ได้เหยียดนะครับ ปกติถ้าบ้านหลังเล็กเขาจะออกที่ส่วนกลางของหมู่บ้าน ไม่ใช่มาออกในบ้านแบบนี้ หลายๆอย่างมันน่าสงสัยมาก เลยระวังตัวเป็นพิเศษ
ผมคิดเสมอว่าผู้ชายอย่างเรายังรู้สึกกลัวพวกโรคจิตเลย แล้วนับภาษาอะไรกับผู้หญิง เลยอยากให้ระวังทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยส่วนตัวผมเจอพวกโรคจิตก็เยอะ พวกรับเลี้ยงเสนอเงินเป็นแสนๆ ก็มี พวกนั้นยังโอเคกว่าที่พูดตรงๆ ไม่ใช่โรคจิตที่มาวางยาคนอื่นแบบนี้ แต่บอกก่อนผมไม่เคยรับนะ ไม่ต้องติดต่อมา
ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วนะครับ ส่วนเรื่องคดีความคงปล่อยไป เพราะเหตุมันยังไม่เกิด แค่เป็นการพยายาม สู้ในชั้นศาลไปโทษก็เบาเสียเวลาทำมาหากินเราเปล่าๆ เพราะเขายังไม่ได้ทำอะไร ได้แต่แจ้งไว้เป็นอุทาหรณ์ เรื่องการวางยาในเครื่องดื่ม เห็นว่ามีพลาสติกครอบฝาเหมือนใหม่ ก็อย่าได้ไว้ใจครับ มันวางยากันได้อยู่ดี
ทางน.ส. ณิชากร คู่หาจิต อายุ 31 ปี แฟนผู้เสียหาย บอกเล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนทำงานอยู่แล้วแฟนโทรมาหาตนบอกว่าเค้าโดนวางยา แต่ตนก็ไม่เอะใจ เพราะนึกว่าเค้าพูดเล่นเพื่อให้ตนกลับบ้านเร็วๆ ส่วนมากลูกเทรนตนตะรู้จักทุกคน มีบ้างที่ต้องออกไปเทรนที่บ้าน แต่ลูกเทรนคนนี้ตนไม่รู้จักเลย วันนั้นพอตนกลับไปถึงบ้านก็เห็นเค้านอนหลับมีเสียงกรนเหมือนตอนหลับปกติ ตนจึงไม่สงสัยอะไร แล้วเค้าจะตื่นมาตอน 11 โมง ตนก็จะตื่นตอน 10 โมง ก็เห็นเค้านอนน้ำลายฟูมปาก ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นมั้ยเวลากรน ตนก็ยังถ่ายคลิปไว้แกล้งตอนตื่นกัน แต่พอ นาฬิกาปลุก ตอนบ่าย 2 ก็ยังไม่ลุก เพราะเค้าจะตั้งปลุกไว้ไปส่งตนไปทำงาน ทีนี้เค้าไปดูก็ไม่มีเสียงกรนแล้ว ก็เริ่มเอะใจแล้วเลยเรียกรถไปส่งโรงบาล ให้แม่ไปแทนเพราะตนรีบไปทำงาน พอไปถึงโรงบาลแถวสุขุมวิท เค้าก็ตรวจทางแลปไม่ได้เพราะไม่มีห้องตรวจ ถ้าตรวจต้องไปโรงบาลตำรวจ ตนก็โทรถามแม่ว่าเป็นยังไงบ้างก็บอกกินไม่ได้ กินแล้วอวกออกหมด วันแรกที่โดนก็กินแล้วอวก หลับแล้วตื่นมามึนหัวก็ลงนอนต่อ วันนั้นก็โทรคุยกันพูดไม่รู้เรื่องนะ ก็อยากจะบอกว่า ลูกเทรน ก็จะมีการซื้ออาหารน้ำดื่มมาฝากเทรนเนอร์กันบ้าง ก็ฝากให้ระวังกันด้วย เพราะบางคนรู้จักแค่ไม่กี่วันเค้าอาจจะคิดไม่ดีกับเราก็ได้ ให้ระวังตัวกันไว้บ้าง
Leave a Reply