วันที่ 21 ธันวาคม 2565 เวลา 19.07 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ภายในพระอุโบสถวัดราษฎร์บูรณะ จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยสถานีราษฎร์บูรณะ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู , อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ( อปพร.เขตราษฎร์บูรณะ ) เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาสาสมัครบันเทาสาธารณภัยถึงที่เกิดเหตุพบเหตุเกิดภายในพระอุโบสถ วัดราษฎร์บูรณะ เลขที่ 377 ซอย ราษฎร์บูรณะ 21 ถนน ราษฎร์บูรณะ เเขวง บางปะกอก เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ประกอบกิจการ ศาสนสถาน ลักษณะที่เกิดเหตุ อาคารปูนชั้นเดียว (พระอุโบสถ) พบแสงเพลิงและกลุ่มควันเป็นจำนวนมากบริเวณด้านข้างพระประธานซึ่งอยู่ภายในพระอุโบสถหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงช่วยกันวางสายฉีดน้ำเร่งระงับเหตุ ใช้เวลา 10 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้แสงเพลิงหมดไปคงเหลือไว้แต่กลุ่มควันเจ้า อาสาสมัครจึงนำอุปกรณ์พัดลมระบายควันรวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆช่วยเร่งระบายควันเพื่อตรวจสอบพื้นที่โดยรอบทันที
เมื่อกลุ่มควันหมดไปจากภายในพระอุโบสถเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นแล้วพบว่าเครื่องขยายเสียง , อาสนะ ,พรม ผนังโบสถ์ ,ประตู , ฐานพระประธาน , แผงวงจรไฟฟ้า และ หน้าต่าง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 6 ตารางเมตร จากการสันนิฐานเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่เครื่องขยายเสียง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการปิดล้อมสถานที่เกิดเหตุดังกล่าวเอาไว้ก่อนและไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย และต้องรอเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนในข้อสันนิษฐานเบื้องต้นเป็นเพียงแค่ข้อสรุปเหตุคร่าวๆเท่านั้นยังไม่สรุปสาเหตุที่เเน่ชัดอย่างไรแล้วต้องรอตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก่อนถึงจะสรุปสาเหตุที่ชัดเจนได้
จากการสอบถาม หลวงพี่หนุ่ม
อายุ 54 ปี เป็นพระลูกวัด เห็นเหตุการณ์บอกเล่าว่า อาตมา เดินรดน้ำอยู่บริเวณรอบๆโบสถ์ เป็นประจำทุกเย็นอยู่แล้ว วันนี้อาตมารดน้ำตามปกติ ก็เข้ามาสรงน้ำเปลี่ยนผ้า เพื่อจะออกมาเดินดูต้นไม้ที่ได้รดไปเพราะว่าเป็นต้นไม้ที่ปลูกใหม่ เลยเดินมาดินว่าชุ่มน้ำหรือเปล่า ก็เดินออกมากุฏิ แล้วก็ได้ยินเสียงแมวร้องผิดปกติ ตนจึงเดินตามเสียงไปดู จนไปถึงประตูทางเข้าโบสถ์ อาตมาก็ไม่เห็นตัวแมว แต่เห็นแสงไฟที่ลอดออกมาจากข้างในโบสถ์เป็นสีสวยมาก สีออกแดงๆชมพูๆ อาตมาก็เริ่มเอะใจแล้วว่าต้องไฟไหม้แน่ๆ เพราะตรงบริเวณนั้นเป็นมุมที่มีสายไฟ ปลั๊กไฟ และสิ่งของที่เป็นเชื้อเพลิงติดไฟได้ง่าย อาตมาจึงรีบไปแจ้งพระที่ห้องสำนักงานเพราะตอนนั้นยังมีพระประจำอยู่ พอแจ้งเสร็จก็วิ่งกลับมาดูมีพระอีกองค์นึงจะเข้าไปสาดน้ำและจะเปิดประตูเข้าไป อาตมาก็ห้ามไว้ เพราะเกรงว่า ไฟยังไม่ตัดแล้วจะเป็นอันตรายโดนไฟดูดไฟช๊อต
ได้ จึงไปบอกกับพระอีกองค์นึงที่รู้ว่าต้องสับคัตเอ้าท์โบสถ์ทั้งหมดตรงไหน พอสับคัตเอ้าท์เสร็จจึงเปิดประตูเข้าไป ก็ใช้เวลาสักพักนึงกว่ารถดับเพลิงจะมาถึงเพราะกว่าจะแจ้งประสานกันไปมา ใช้เวลาอยู่พอสมควร อาตมาคิดว่า น่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจรแน่นอน เพราะ วันนี้ยังไม่มีใครเข้าไปทำอะไรในโบสถ์เลย ประตูโบสถ์ปิดไว้ สันนิษฐานว่า ปลั๊กเสียบคาไว้ แต่ไม่แน่ใจว่า ได้สับคัตเอ้าท์ลงหรือเปล่า ถ้าอาตมาไม่ได้ยินเสียงแมว ก็อาจจะไหม้และลุกลามมากกว่านี้ก็เป็นได้ โดยปกติ ก็ได้ยินเสียงแมวร้อง คลุกคลีกับแมวอยู่แมว แต่วันนี้ เสียงแบบผิดปกติ อาตมาจึงออกไปดู แต่ก็ไม่พบตัวแมว กลับได้พบไฟไหม้แทน
Leave a Reply