ติดตามความคืบหน้า กรณีรักสามเศร้า หนุ่มวัย20กระหน่ำแทงสาววัย 26 ปี 15 แผลดับคาห้องเช่า ย่าน วงเวียนใหญ่

สืบเนื่องจากกรณีหนุ่มวัย 20 ปี กระหน่ำแทงสาววัย 26 ปี 15 แผลดับคาห้องเช่า ย่าน วงเวียนใหญ่ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 01.30 น. ของวันนี้

ร.ต.อ.พิทักษ์ จันทร์ศรี รอง สว.(สอบสวน) สน.บุปผาราม รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายพลเมืองดีช่วยกันจับคนร้ายไว้ได้ เหตุเกิดที่ อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ถนน ประชาธิปก แขวง สมเด็จเจ้าพระยา เขต คลองสาน กรุงเทพมหานคร รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ. รัตน์เกล้า อาณานุการ ผกก.สน.บุปผาราม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปรามจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 6 ชั้น ที่ประตูหน้าห้องพัก ชั้น 6 พบคาบเลือดและข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้า กระจัดกระจายอยู่หน้าห้อง ภายในห้องพบศพหญิงสาว อายุ 26 ปี เจ้าของห้องทำงานเป็นผู้ช่วยคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ในสภาพนอนหงายอยู่ที่พื้นห้องท้ายเตียงนอน สวมชุดนอนสีชมพูเสื้อแขนสั้น กางเกงขาสามส่วน มีบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงตามร่างกาย รวม 13 แผล พบมีดทำครัวยาวประมาณ 10 นิ้วเปื้อนเลือดตกอยู่ที่พื้นห้องและสร้อยคอสแตนเลสห้อยพระ4 องค์ บนผ้าวางที่พื้นห้อง ในห้องมีร่องรอยการต่อสู้ ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นาย สุวัฒน์ ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุ 21 ปี ชาวศรีสะเกษ เพื่อนข้างห้องช่วยกันจับตัวไว้ได้ ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.บุปผาราม

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรอยเลือด ทั่วทั้งห้อง ไม่ว่าจะห้องน้ำ พื้นภายในห้อง พื้นระเบียงนอกห้อง และระเบียงในห้องมีแต่คราบเลือด โดยคาดว่าผู้ตายและผู้ก่อเหตุ หน้าจะทะเลาะวิวาทกันโดยปมปัญหาคาดจากปัญหารักสามเศร้า เพราะในส่วนผู้ตายก็มีแฟนหนุ่มอีกคนที่พึ่งคบหาดูใจกันอยู่ แล้วผู้ตายก็ยังเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี อีกด้วย

แล้ววันนี้ทางผู้สื่อข่าวจึงมาติดตามความคืบหน้าที่ สน.บุปผาราม และได้สอบถามจากทางด้าน พ.ต.อ. รัตน์เกล้า อาณานุการ ผู้กำกับ สน.บุปผาราม กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการที่ผู้ก่อเหตุได้เกิดการทะเลาะวิวาทกับทางผู้เสียชีวิตโดยฉนวนมวลเหตุของการทะเลาะวิวาทนั้นเกิดจากการที่ฝ่ายหญิงไม่ยอมให้ฝ่ายผู้ลงมือก่อเหตุสูบบุหรี่ภายในห้องของตนก็เลยเป็นที่มาของการลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงจนถึงความตายโดยใช้อาวุธมีดที่ฝ่ายผู้ลงมือก่อเหตุนั้นได้พกติดตัวไว้ตลอดเวลาเนื่องจากฝ่ายผู้ลงมือก่อเหตุยังเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยเทคนิคอาชีวะชื่อดังย่านฝั่งธน และ ที่ต้องพกพาอาวุธมีดติดตัวไว้นั้นก็เนื่องจากเอาไว้ป้องกันตัวเพราะวิทยาลัยอาชีวะที่ผู้ก่อเหตุที่กำลังศึกษาอยู่มีคู่อริมากมายก็เลยเกิดความกลัวว่าตนเองจะถูกคู่อริมาดักทำร้ายก็เลยต้องพกพาอาวุธมีดดังกล่าวไว้ป้องกันตัว แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ก่อเหตุในขณะนี้ยังคงต้องสอบสวนเพื่อขยายผลเพิ่มเติมต่อไป

Leave a Reply

Social Media Auto Publish Powered By : XYZScripts.com
Share via
Copy link